ปารีส 30 เม.ย.- ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศหรือไออีเอ (IEA) คาดการณ์ว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะทำให้โลกปล่อยคาร์บอนอันเกิดจากเชื้อเพลิงลดลงถึงร้อยละ 8 ในปีนี้ ลดลงต่อปีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานลดลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน
รายงานพลังงานโลกของไออีเอที่ได้จากการวิเคราะห์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วง 100 กว่าวันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งโลกปิดเมืองเพื่อควบคุมโควิด-19 คาดการณ์ว่า ความต้องการพลังงานโลกจะลดลงร้อยละ 6 ในปีนี้ เจ็ดเท่าของช่วงวิกฤตการเงินโลก และลดลงต่อปีมากที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่สอง ความต้องการพลังงานโลกที่ลดลงนี้จะเท่ากับความต้องการใช้พลังงานทั้งประเทศของอินเดียซึ่งใช้พลังงานมากเป็นอันดับสามของโลก เศรษฐกิจพัฒนาแล้วเป็นกลุ่มที่จะใช้พลังงานลดลงมากที่สุดคือร้อยละ 11 ในสหภาพยุโรปหรืออียู และร้อยละ 9 ในสหรัฐ
รายงานคาดว่า ความต้องการเชื้อเพลิงหลักอย่างถ่านหินจะลดลงกว่าร้อยละ 10 ในปีนี้ ก๊าซธรรมชาติจะลดลงร้อยละ 5 ประกอบกับมีการเปลี่ยนไปใช้พลังงานปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น ลม แสงอาทิตย์ มากขึ้น ในภาพรวมแล้วการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากพลังงานจึงน่าจะลดลงเกือบร้อยละ 8 มากที่สุดนับจากปี 2553 และจะลดลงต่อปีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ หกเท่าของช่วงวิกฤตการเงินโลก สหประชาชาติหรือยูเอ็น (UN) เคยระบุว่า โลกต้องปล่อยคาร์บอนลดลงร้อยละ 7.6 ต่อปีไปจนถึงปี 2573 จึงจะสามารถจำกัดอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสจากกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม.- สำนักข่าวไทย