เวลลิงตัน 25 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศแล้วในวันนี้ เพื่อเตรียมเข้าสู่การปิดประเทศเต็มรูปแบบรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในนิวซีแลนด์เพิ่มเป็น 205 คนแล้ว รัฐบาลประกาศให้ทุกคนกักตัวเอง ปิดทุกบริการที่ไม่จำเป็น โรงเรียน สำนักงาน เป็นเวลาหนึ่งเดือนเริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 18.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งช้ากว่านิวซีแลนด์ 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นแถลงต่อรัฐสภาว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ นิวซีแลนด์จะหลบในที่กำบังเป็นเวลาสี่สัปดาห์เพื่อพยายามหยุดยั้งไวรัสและทำลายห่วงโซ่ของมัน สถานการณ์จะเลวร้ายลงก่อนจะดีขึ้น ประเทศจะอ่อนล้าลงและมีผู้ป่วยมากขึ้น หลังจากนั้นจึงจะรู้ได้ว่าสิ่งที่ทำไปประสบความสำเร็จมากเพียงใด สาเหตุที่ต้องปิดประเทศเพราะมีหลักฐานชัดเจนแล้วว่ามีการแพร่เชื้อภายในชุมชน เฉพาะวันนี้วันเดียวมีผู้ป่วยใหม่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 50 คน
ผู้นำนิวซีแลนด์ฝากถึงทุกคนว่า หากสงสัยว่ามีอะไรที่ทำได้หรือไม่ได้ ให้ยึดหลักการง่าย ๆ ว่า ทำตัวเหมือนว่าติดเชื้อแล้ว ทุกการกระทำของตนเองคือการทำให้คนอื่นเสี่ยงไปด้วย จึงต้องเป็นการคิดร่วมกันทั้งหมด งดพบปะเยี่ยมเยียนคนที่เรารัก คิดถึงคนอื่นก่อนตนเอง หากร่วมใจกันทั้งประเทศทุกอย่างจะไปได้ด้วยดี
นิวซีแลนด์มีประชากรเพียง 5 ล้านคน และมีผู้ติดเชื้อน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นและเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลียที่พบเกิน 2,250 คนแล้ว รัฐบาลนางอาร์เดิร์นดำเนินมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้งการระบาดและเป็นรัฐบาลแรก ๆ ที่บังคับให้ผู้มาจากต่างประเทศทุกคนต้องกักตัวเอง ห้ามการรวมกลุ่มกันทั้งในสถานที่ปิดและสถานที่เปิด การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศ หลังจากประกาศครั้งแรกในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 เมื่อเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 เขย่าเมืองไครสต์เชิร์ชบนเกาะใต้ คร่าชีวิตคนไปเกือบ 200 คน.- สำนักข่าวไทย