ซิดนีย์ 24 มี.ค.- ออสเตรเลียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เกือบทั้งหมดเป็นผู้โดยสารที่เพิ่งขึ้นจากเรือสำราญลำหนึ่งที่นครซิดนีย์เมื่อหลายวันก่อน ทำให้ทางการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องมาตรการจำกัดการระบาด
เรือสำราญรูบี ปรินเซสของบริษัทคาร์นิวัลคอร์ปกลายเป็นแหล่งติดเชื้อใหญ่แหล่งใหม่ของออสเตรเลีย เมื่อผู้โดยสารสตรีวัย 70 ปีเศษเป็นชาวออสเตรเลียที่เสียชีวิตเป็นรายที่ 8 ของประเทศ ผู้โดยสาร 130 คนตรวจพบติดเชื้อ จากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 2,700 คนที่ขึ้นจากเรือเมื่อเทียบท่าซิดนีย์ในวันที่ 19 มีนาคม เจ้าหน้าที่กำลังตามหาผู้โดยสารคนอื่น ๆ อย่างจ้าละหวั่นเพื่อตรวจหาเชื้อและติดตามการเดินทางเคลื่อนไหว เดิมเจ้าหน้าที่จัดให้เรือลำนี้มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากไปท่องเที่ยวนิวซีแลนด์นาน 11 วัน แม้ผู้โดยสารจำนวนหนึ่งแสดงอาการไม่สบายก็ตาม ผู้โดยสารร้อยละ 60 เป็นชาวออสเตรเลีย ร้อยละ 20 เป็นชาวอเมริกัน และในการเดินเรือเส้นทางเดียวกันเที่ยวก่อนหน้านี้ ผู้โดยสาร 138 คนบนเรือลำนี้มีไข้สูง ในจำนวนนี้ 9 คนได้รับการตรวจหาเชื้อเมื่อเรือเทียบท่านครซิดนีย์ในวันที่ 8 มีนาคมและได้รับอนุญาตให้ขึ้นจากเรือก่อน จากนั้นจึงให้ผู้โดยสารที่เหลือทยอยขึ้นตามไปในวันเดียวกัน ผู้โดยสารคู่หนึ่งขึ้นเครื่องบินไปเมืองดาร์วิน ดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีและตรวจพบเชื้อหลังจากนั้น
ออสเตรเลียพบผู้ป่วยโควิด-19 แล้ว 1,984 คน แม้ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเร็วมากในช่วงหลายวันมานี้ ทางการใกล้ปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันนี้ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศระบุว่า เข้าสู่ระยะวิกฤตแล้ว โรงเรียนทั้งประเทศยังคงปิดและขอให้ผู้ปกครองให้บุตรหลานอยู่แต่บ้าน บริการไม่จำเป็นทั้งหมด เช่น โรงภาพยนตร์ ผับ ศาสนสถาน ปิดทั้งวันเป็นวันแรกในวันนี้ ทางการกำลังเพิ่มการปฏิบัติตามมาตรการนี้และจะลงโทษสถานหนักกับผู้ฝ่าฝืน นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเวสต์แพคประเมินว่า มาตรการเข้มงวดในการป้องกันการระบาดอาจทำให้อัตราการว่างงานในออสเตรเลียสูงกว่าร้อยละ 11 ซึ่งจะสูงสุดนับตั้งแต่ออสเตรเลียเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งหลังสุดช่วงต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990.- สำนักข่าวไทย