ปักกิ่ง 10 มี.ค.- คณะนักโรคระบาดวิทยาจีนเผยผลการศึกษาใหม่ว่า เชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 อาจหลงเหลืออยู่ในอากาศได้นานไม่ต่ำกว่า 30 นาที และอาจเดินทางไปไกลถึง 4.5 เมตร ไม่ใช่ 1-2 เมตรที่ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขทั่วโลกแนะนำว่าเป็นระยะห่างที่ปลอดภัย
กลุ่มนักวิจัยของทางการในมณฑลหูนาน ทางตอนกลางของจีนเผยผลการศึกษาลงในวารสาร Practical Preventive Medicine ฉบับวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ได้ศึกษาการระบาดในท้องถิ่นกรณีหนึ่งเมื่อวันที่ 22 มกราคม ผู้โดยสารที่มีอาการป่วยคนหนึ่งขึ้นรถโคชวิ่งระยะไกลที่มีคนนั่งเต็มทั้ง 48 ที่นั่ง โดยนั่งแถวรองสุดท้าย ตอนนั้นทางการยังไม่ประกาศเรื่องการระบาด ผู้โดยสารคนนั้นจึงไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งคนอื่น ๆ บนรถ ปรากฏว่าผู้ที่นั่งอยู่ภายในรัศมี 4.5 เมตรจากผู้ป่วยคนแรกติดเชื้อ 8 คน ในจำนวนนี้ 1 คนไม่แสดงอาการ และ 2 คนนั่งคนละฝั่งกับผู้ป่วยคนแรก นอกจากนี้ยังพบว่าเชื้อไวรัสสามารถหลงเหลืออยู่ในอากาศแม้ผู้ป่วยคนแรกลงจากรถไปแล้ว 30 นาที รถเที่ยวนั้นแล่นเป็นระยะทางนาน 4 ชั่วโมง
คณะนักวิจัยสรุปว่า ในสภาพแวดล้อมที่เป็นสถานที่ปิดและติดเครื่องปรับอากาศ เชื้อไวรัสสามารถแพร่ได้ไกลถึง 4.5 เมตร ไม่ใช่ 1-2 เมตรตามที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปแนะนำว่าเป็นระยะห่างที่ปลอดภัย เชื้อไวรัสอาจมีชีวิตอยู่ได้หลายวันบนพื้นผิวที่มีละอองน้ำมูกน้ำลายผู้ป่วย หากใครไปสัมผัสแล้วใช้มือจับหน้าจับตาตัวเองก็เสี่ยงได้รับเชื้อ ระยะเวลาการมีชีวิตขึ้นกับอุณหภูมิและประเภทพื้นผิว เช่น อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียสเชื้อจะอยู่ได้ 2-3 วันบนพื้นผิวที่เป็นแก้ว ใยผ้า โลหะ พลาสติก กระดาษ หากเป็นอุจจาระหรือสารคัดหลั่งของคนเชื้ออาจอยู่ได้นานกว่า 5 วัน ดังนั้นการล้างมือและการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะจึงมีความสำคัญมากเพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อ.- สำนักข่าวไทย