ต่างประเทศ 1 ม.ค.-บรรยากาศต้อนรับปีใหม่ 2020 หลายประเทศทั่วโลกคึกคัก โดยเฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุอย่างยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา
บรรยากาศต้อนรับวันขึ้นปีใหม่ 2020 ทั่วโลก เฉลิมฉลองด้วยการจุดพลุอย่างสวยงามตระการตา จากท้องฟ้าเมืองโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์ จุดพลุขึ้นจากอาคารสกายทาวเวอร์ โดยใช้พลุน้ำหนักรวมถึง 453 กก. ถือเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกของโลกที่จุดพลุเฉลิมฉลองปีใหม่ ตามด้วยนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย จุดพลุบริเวณอ่าวซิดนีย์ ท่ามกลางผู้ชมมากกว่า 1 ล้านคน ทั้งที่ปีนี้ออสเตรเลียเผชิญปัญหาไฟป่ารุนแรงในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขณะที่การจุดพลุเฉลิมฉลองที่นครซิดนีย์ต้องช้ากว่ากำหนดการไปราว 15 นาที เพราะกระแสลมแรง แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ส่วนที่กรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ ผู้คนจำนวนหลายพันชุมนุมกันเฝ้าดูพิธีตีระฆังประจำปี ซึ่งถือเป็นเสียงระฆังแห่งสันติภาพ สื่อไปยังเกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีเหนือเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่บริเวณจตุรัสคิม อิล ซุง กลางกรุงเปียงยาง โดยมีผู้คนจำนวนมากร่วมชมการแสดงคอนเสิร์ตและดูการจุดพลุ
ขณะที่เกาะฮ่องกงมีการเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2020 ด้วยการแสดงแสง สี เสียง แทนการจุดพลุไฟอย่างยิ่งใหญ่ตระการตาเช่นทุกปี เพราะยังมีปัญหาเรื่องการประท้วง และมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่กลุ่มผู้ประท้วงส่วนหนึ่งยังพยายามเคลื่อนไหวแสดงพลังปิดกั้นถนนบริเวณย่านการค้า และเรียกร้องผู้คนอย่ายกเลิกการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไปตลอดช่วงปีใหม่ 2020
ส่วนการเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงจีน มีการแสดงตีกลองและเต้นรำบริเวณใกล้พื้นที่ เตรียมพร้อมจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่งในปี 2022 ขณะที่การเฉลิมฉลองที่นครเซี่ยงไฮ้ ใช้การแสดงโดรนกว่า 2,000 ตัว ที่ทั้งสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ที่ไต้หวันมีการจุดพลุไฟเฉลิมฉลองปีใหม่บริเวณตึกไทเป 101 อาคารสูงที่สุดของไต้หวัน และติดอันดับ 1 ใน 10 ตึกสูงที่สุดของโลก
ส่วนที่ญี่ปุ่น ผู้คนนับแสนทั้งจากในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชุมนุมกันบริเวณย่านชิบูย่ากลางกรุงโตเกียว ร่วมชมการนับถอยหลังย่างเข้าสู่ปีใหม่อย่างคึกคัก
ที่มหานครนิวยอร์กในสหรัฐอเมริกา ผู้คนต่างเตรียมพร้อมเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2020 บริเวณจัตุรัสไทม์สแควร์ เพื่อรอชมการปล่อยลูกบอลคริสตัลตามประเพณี ท่ามกลางผู้ชมมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งผู้คนต่างพากันมาจับจองพื้นที่ก่อนถึงช่วงเวลาต้อนรับปีใหม่ราวเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย