ลอนดอน 17 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษจะผลักดันให้สหภาพยุโรปหรืออียูมีข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรหรือยูเคภายในสิ้นปีหน้า ขณะที่อียูยืนกรานต้องมีข้อตกลงที่เป็นธรรม
ทั้งนี้หลังจากยูเคออกจากอียูหรือเบร็กซิทภายในวันที่ 31 มกราคม ยูเคจะเข้าสู่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่ยังคงมีสถานะเป็นสมาชิกอียูในระหว่างที่เจรจาข้อตกลงเรื่องความสัมพันธ์ในอนาคตกับอียู นายกรัฐมนตรีจอห์นสันประกาศระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งว่า จะไม่ขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านหลังพ้นสิ้นปีหน้า เท่ากับเหลือช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเพียง 11 เดือนเท่านั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอังกฤษเผยว่า รัฐบาลซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่ขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน อีกทั้งร่างกฎหมายข้อตกลงถอนตัวฉบับใหม่ก็บัญญัติห้ามรัฐบาลขยายเวลาด้วย
การประกาศของรัฐบาลอังกฤษเท่ากับส่งสัญญาณไปยังอียูว่า ทั้งสองฝ่ายจะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าภายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งจะครอบคลุมทุกเรื่องตั้งแต่บริการการเงิน กฎต้นกำเนิดสินค้า ภาษี ระเบียบการช่วยเหลือของรัฐ แม้ว่าอียูเตือนว่าจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุม หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องความสัมพันธ์ในอนาคตและไม่มีการขยายช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน การค้าระหว่างกันอาจต้องเป็นไปตามระเบียบขององค์การการค้าโลก ซึ่งเป็นเพิ่มภาระให้แก่ภาคธุรกิจมากขึ้น
อียูคาดว่า จะเริ่มการเจรจากับยูเคได้ภายในเดือนมีนาคม เท่ากับเหลือเวลาบรรลุข้อตกลงให้ได้ภายใน 10 เดือน และต้องได้รับสัตยาบันจากรัฐสภาอังกฤษและสมาชิกอียูอีก 27 ประเทศ การเจรจาข้อตกลงการค้าจึงมีแนวโน้มจะยุ่งยากซับซ้อน เพราะอียูยืนยันจะไม่ลงนามหากไม่มีมาตรารับประกันว่าจะมีการแข่งขันที่เป็นธรรม เนื่องจากยูเคทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจ อียูจะเน้นเรื่องรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงาน ระเบียบการช่วยเหลือของรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้ายูเคเข้าตลาดอียูด้วยราคาที่ต่ำอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่อังกฤษต้องการผ่อนปรนระเบียบเรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อให้เอื้อต่อการทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐ.- สำนักข่าวไทย