ซันติอาโก 6 พ.ย.- ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเญราของชิลียืนยันว่าจะไม่ลาออก แม้ว่าการประท้วงรุนแรงทั่วประเทศเข้าสู่สัปดาห์ที่สามแล้ว โดยยอมรับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ต้นตอของปัญหาประเทศที่หมักหมมมานานกว่า 30 ปีแล้ว
ประธานาธิบดีปิเญรา วัย 69 ปี ให้สัมภาษณ์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซี (BBC) ปกป้องการตัดสินใจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยว่าเป็นประชาธิปไตยและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องที่มีเสียงครหาว่าตำรวจใช้ความรุนแรงและใช้อำนาจโดยมิชอบ กรณียิงนักเรียนสองคนบาดเจ็บขณะร่วมอยู่ในกลุ่มที่พยายามบุกโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงซันติอาโก ขอยืนยันว่าทางการจะเปิดการสอบสวนและจะไม่มีใครได้รับความคุ้มครองจากการทำผิด อย่างไรก็ดี ผู้นำชิลีไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ได้เปิดการเจรจากับฝ่ายค้านเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่อย่างใด
การประท้วงในชิลีปะทุขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม อัยการเผยว่าจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน รัฐบาลต้องยกเลิกการเป็นเจ้าภาพประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกในกลางเดือนนี้ การประชุมสากล และการแข่งกีฬารายการใหญ่อีกหลายงาน ควบคู่ไปกับการประกาศมาตรการช่วยเหลือทางการเงินและมาตรการลดภาษีเพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดกลางและย่อมประมาณ 6,800 รายที่ถูกผู้ประท้วงวางเพลิง ปล้นชิง และทุบทำลาย ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญที่ใช้มาตั้งแต่สมัยนายพลออกุสโต ปิโนเชต์ ปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จระหว่างปี 2516-2533 ผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์พบว่า ชาวชิลีร้อยละ 87 สนับสนุนให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ขณะที่คะแนนนิยมของประธานาธิบดีปิเญราที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนเหลือเพียงร้อยละ 13 รัฐบาลคาดว่า การประท้วงจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 0.5 ในเดือนตุลาคม หลังจากขยายตัวร้อยละ 3 ในเดือนกันยายน.-สำนักข่าวไทย