ฮ่องกง 8 ต.ค.- นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงเผยวันนี้ว่า คณะผู้บริหารฮ่องกงไม่คิดใช้อำนาจฉุกเฉินที่ได้มาตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมอังกฤษออกกฎหมายใหม่ หลังจากสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงรุนแรงขึ้นตั้งแต่เธอใช้อำนาจฉุกเฉินเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีห้ามการปิดบังใบหน้า
นางหล่ำแถลงข่าวประจำสัปดาห์ในวันนี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าฮ่องกงลดลงมาก และผลกระทบของการประท้วงที่ล่วงเลยเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้วจะทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสสามของฮ่องกงแย่ลงมาก พร้อมกับขอร้องให้เจ้าของที่ดินและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ช่วยเหลือผู้ค้าปลีกที่ธุรกิจกำลังย่ำแย่ นางหล่ำกล่าวว่า ช่วง 6 วันแรกของเดือนตุลาคมที่เรียกกันว่าช่วงวันหยุดสัปดาห์ทองหรือโกลเดนวีคเนื่องในวันหยุดวันชาติจีน จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าฮ่องกงลดลงกว่าครึ่ง คนทำงานภาคค้าปลีก ร้านอาหาร ท่องเที่ยวและโรงแรมราว 600,000 คน เดือดร้อนหนัก ต่อข้อถามที่ว่าเธอจะขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนเพื่อปราบปรามการประท้วงภายใต้สถานการณ์ใด นางหล่ำออกตัวว่า ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะดำเนินมาตรการใดเป็นพิเศษภายใต้สถานการณ์ใด รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีน และคิดว่าฮ่องกงควรหาทางออกแก้ไขวิกฤตของตนเอง
ผู้บริหารฮ่องกงใช้อำนาจฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาห้ามคนปิดบังใบหน้า เพราะผู้ประท้วงใช้อำพรางตัวตนและป้องกันแก๊สน้ำตา ทำให้ผู้ประท้วงยิ่งไม่พอใจและสวมหน้ากากออกมาท้าทายคำสั่งห้ามทั่วฮ่องกงและจบลงด้วยความรุนแรง ทั้งนี้ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมามีผู้ประท้วงวัยรุ่นถูกยิงที่หน้าอกหนึ่งคนและที่ขาอีกหนึ่งคน ตู้เอทีเอ็ม สาขาธนาคารจีนและร้านรวงถูกทุบทำลายเสียหาย สถานีรถไฟฟ้าฮ่องกงที่มีผู้ใช้บริการวันละ 5 ล้านคนประกาศวันนี้ว่า บางสถานียังไม่เปิดให้บริการในวันนี้เพราะยังซ่อมแซมความเสียหายไม่เสร็จ และจะหยุดให้บริการเดินรถหลังเวลา 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น จากปกติที่หยุดหลังเที่ยงคืน.-