กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – สถานทูตจีนประจำประเทศไทยจัดงานฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์และความสำเร็จ พร้อมเผยแผนพัฒนาประเทศให้ก้าวไกลในอนาคต
สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย จัดงานฉลองวาระครบ 70 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม โดยมีบุคคลระดับสูงของไทย เช่น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาและประธานวุฒิสภา ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 1 และพลเอกสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 รวมทั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศต่าง ๆ ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ มาร่วมแสดงความยินดี
ในโอกาสนี้ นายหลู่ เจี้ยน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และพัฒนาการของประเทศจีน ซึ่งในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา สาธารณรัฐประชาชนจีนภายใต้การบริหารปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีเหมา เจ๋อตง พัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้จีนก้าวสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ มีความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และนวัตกรรมเทคโนโลยี ปัจจุบัน จีนมีระบบอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ส่งผลให้มูลค่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน ทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งยังเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และรถไฟความเร็วสูง จีนยังมุ่งพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้ก้าวไกล ทั้งการพัฒนาระบบ 5G การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการคิดค้นแหล่งพลังงานใหม่ เพื่อใช้ขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ในขณะที่จีนพัฒนาวิทยาการไปอย่างไม่หยุดยั้ง รัฐบาลก็ยังคงคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ โดยมุ่งพัฒนาให้คนในประเทศมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ผลของการพัฒนาทำให้จีนสามารถขจัดปัญหาความยากจนเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยอัตราความยากจนลดลงจาก 97.5% เหลือเพียง 1.7% พร้อมก้าวสู่เป้าหมายเป็นสังคมนิยมแบบทันสมัย ที่มีความแข็งแกร่ง มั่งคั่ง มีอารยธรรม และสงบสุขในกลางศตวรรษนี้
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักไทยนั้น เอกอัครราชทูตหลู่ เจี้ยน กล่าววว่า ทั้ง 2 ประเทศต่างก็กำลังก้าวสู่หน้าประวัติศาสตร์ใหม่แห่งการพัฒนา จึงเป็นเรื่องดีที่จะคว้าโอกาส ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนกันในระดับสูง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจในเชิงยุทธศาสตร์ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และทำให้ความสัมพันธ์จีน – ไทยเป็นแบบอย่างของการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ รวมทั้งเน้นการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างยุทธศาสตร์ “สายแถบและเส้นทาง” กับ “ประเทศไทย 4.0” “ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก”ของไทย เพื่อเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นต่อไป
ภายในงานดังกล่าว นอกจากจะมีนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างยิ่ง คือ นิทรรศการจากบริษัท China Railway Construction Corporation (CRCC) และ บริษัท CRRC Qingdao Sifang ซึ่งแสดงแบบจำลองรถไฟจีน ตั้งแต่ยุคหัวจักรดีเซล ถึงยุครถไฟความเร็วสูง และเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ชมภายในห้องโดยสารเสมือนจริง ผ่านระบบ Virtual Reality.- สำนักข่าวไทย