ลอนดอน 24 ก.ย.- ศาลฎีกาอังกฤษมีคำชี้ขาดในวันนี้ว่า การที่นายกรัฐมนตรีบอริส จห์นสันสั่งปิดประชุมสภานาน 5 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ศาลฎีกาเปิดการไต่สวนนาน 3 วันเมื่อสัปดาห์ก่อนหลังจากมีผู้ยื่นคำร้องสองราย รายแรกคือนางจีนา มิลเลอร์ นักธุรกิจที่ร้องคัดค้านคำชี้ขาดของศาลสูงอังกฤษที่ว่า การปิดประชุมสภาเป็นเรื่องการเมืองล้วน ๆ ไม่ใช่เรื่องของศาล รายที่สองคือรัฐบาลอังกฤษที่ร้องคัดค้านของคำชี้ขาดของศาลสกอตแลนด์ที่ว่า การปิดประชุมสภาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และถูกใช้เพื่อกีดกันรัฐสภา
นายกรัฐมนตรีจอห์นสันให้เหตุผลที่สั่งปิดประชุมว่า ต้องการเวลาในการร่างนโยบายใหม่ของรัฐบาลก่อนที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จพระราชทานกระแสพระราชดำรัสเปิดประชุมสภาในวันที่ 14 ตุลาคม แต่มีเสียงวิจารณ์ว่าเขาต้องการขัดขวางไม่ให้ ส.ส.ได้อภิปรายแผนของเขาเรื่องสหราชอาณาจักร (ยูเค) ออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท
เลดี เฮล ประธานศาลฎีกาอ่านคำชี้ขาดของศาลฎีกาในวันนี้ว่า การขัดขวางไม่ให้รัฐสภาปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่ใกล้จะถึงกำหนดเส้นตายเบร็กซิทภายในวันที่ 31 ตุลาคมถือว่าไม่ถูกต้อง มีผลรุนแรงต่อรากฐานประชาธิปไตย นอกจากนี้การที่นายจอห์นสันถวายคำแนะนำสมเด็จพระราชินีนาถเรื่องสั่งปิดประชุมสภาถือว่าผิดกฎหมาย เพราะมีผลทำให้รัฐสภาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญโดยปราศจากเหตุผลอันชอบธรรม
ประธานศาลฎีกาอังกฤษกล่าวว่า ผู้พิพากษาทั้ง 11 คนมีมติเอกฉันท์ว่ารัฐสภายังไม่ปิดประชุม คำสั่งปิดจึงถือเป็นโมฆะและไม่มีผล เป็นหน้าที่ของประธานสภาสามัญชน (สภาผู้แทนราษฎร) และประธานสภาขุนนาง (วุฒิสภา) ที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการใดต่อไป ด้านนายจอห์น เบอร์คาว ประธานสภาสามัญชนเห็นด้วยกับคำชี้ขาดว่า รัฐสภาจะต้องประชุมทันที เขาจะหารือกับผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ อย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย