นิวยอร์ก 23 ส.ค.- ทนายความโจทก์ที่ตกเป็นเหยื่อค้ากามเผยว่า นายเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักการเงินชาวอเมริกันชื่อดังที่ถูกกล่าวหาค้าประเวณีเด็กหญิง ได้ถ่ายโอนทรัพย์สินกว่า 577 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 17,766 ล้านบาท) ไว้ในกองทรัสต์ก่อนผูกคอตายในห้องขังทำให้โจทก์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ยากและอาจต้องใช้เวลาหลายปี
ทนายความโจทก์กล่าวว่า ผลการเปิดพินัยกรรมพบว่า นายเอปสตีนบิดเบือนระบบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิตด้วยการตั้งกองทรัสต์ชื่อ 1953 ทรัสต์ตามปีเกิดของเขา ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถทราบว่าใครหรือองค์กรใดเป็นผู้รับผลประโยชน์มรดกของเขา โจทก์ที่ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจะต้องเริ่มจากการฟ้องให้ศาลมีคำสั่งบังคับเปิดเผยรายละเอียดกองทรัสต์เสียก่อน จากนั้นจึงจะสามารถเริ่มกระบวนการฟ้องร้องว่าเป็นผู้สมควรมีสิทธิได้รับผลประโยชน์ในฐานะเหยื่อค้ากาม เชื่อว่าศาลและผู้จัดการทรัพย์สินจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นฝ่ายโจทก์จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรมที่ล่วงเลยมานาน โดยจะยื่นฟ้องที่หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ เพราะเป็นที่ที่เขาทำพินัยกรรมและเป็นเจ้าของเกาะสองเกาะ
ทนายโจทก์กล่าวด้วยว่า ทนายความของนายเอปสตีนและเจ้าหน้าที่เรือนจำเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่ปล่อยให้เขาลงชื่อในพินัยกรรมที่ทำขึ้นใหม่สองวันก่อนเสียชีวิตในห้องขังที่นครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ทั้งที่เขาพยายามฆ่าตัวตายในห้องขังมาก่อน พินัยกรรมนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่าเขาเตรียมจะฆ่าตัวตายอีกครั้ง ด้านผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งข้อสังเกตว่า พินัยกรรมนี้อาจเป็นโมฆะเพราะไม่มีพยานหรือไม่ได้ดำเนินการอย่างเหมาะสม พินัยกรรมหนา 20 หน้าระบุว่า เขามีทรัพย์สินเป็นเงินสดกว่า 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1,724 ล้านบาท) อสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์ก ฟลอริดา กรุงปารีส นิวเม็กซิโก และหมู่เกาะเวอร์จิน รถยนต์ เครื่องบินและเรือมูลค่ารวม 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 570 ล้านบาท) งานศิลป์และของสะสมที่ต้องรอการประเมินราคา.- สำนักข่าวไทย