หนองบัวลำภู 3 ต.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” สั่งตรวจสอบแล้ว ปมสื่อเยอรมันตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างตำรวจรับสินบน 1 ล้านบาท รับส่งผลกระทบภาพลักษณ์ตำรวจ ยันหากผิดจริงต้องถูกดำเนินคดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสื่อดังในเยอรมนีตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คน จ่ายสินบน 1 ล้านบาท แล้วหลบหนีไปได้ ว่า ในฐานะที่ตนรับผิดชอบคดีขณะนั้น คดีนี้เกิดในพัทยา ได้มีการสั่งให้จับกุมและขยายผล ซึ่งเดิมเรื่องนี้เกิดจากกรมการปกครองเข้าไปจับกุมการค้าประเวณีเด็ก พบว่ามีชาวเยอรมัน 2 คน เป็นผู้ใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 2 คน ในฐานะที่ตนกำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฎหมาย ต่อมาทราบว่าศาลให้ประกันตัวไปแล้ว ซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ก็ได้ขึ้นแบล็กลิสต์ไว้แล้วว่าห้ามออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ แล้วศาลอนุญาต เมื่อศาลอนุญาตก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า กรณีนี้ส่วนของตำรวจ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ เพราะถ้าตามระเบียบแล้ว ทันทีที่มีการจับกุมชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนต้องแจ้งต่อ ตม.ให้ทราบ เพราะหากประกันตัวออกมาแล้วจะต้องถูกควบคุมตัวที่ห้องขังของ ตม. ซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบว่า พนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองพัทยา มีการรายงานตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งในวันที่ 4 ธ.ค. ก็จะทราบผล และจะแถลงข่าวในวันที่ 5 ธ.ค. ทั้งนี้ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียหาย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาชาวต่างชาติเดินทางออกนอกประเทศแล้วจะสามารถเรียกตัวกลับมาได้หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อัยการสั่งฟ้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบ อัยการก็คัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ให้ประกันตัว และศาลอนุญาตให้ออกนอกประเทศ เขาจึงมีสิทธิออกนอกประเทศ แต่ตามขั้นตอนแล้วต้องกลับมาขึ้นศาล ซึ่งตำรวจทราบว่า สัปดาห์หน้ามีกำหนดการขึ้นศาล แต่หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นหมายแดง (อินเตอร์โพล)
เมื่อถามว่า ถือว่าตำรวจบกพร่องหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนได้รายงานไปที่ สตม.หรือไม่ เพราะกรณีชาวต่างชาติถูกจับประกันตัวในชั้นโรงพัก ไม่ว่าจะประกันตัวในชั้นโรงพักหรือชั้นศาล ก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังของ ตม. ไม่สามารถออกไปเพ่นพ่านได้ แต่ถ้าพนักงานสอบสวนไม่รายงานการจับกุมไปที่ สตม. ทางศาลก็ไม่ทราบเรื่อง คดีนี้คล้ายกับผับจินหลิง เมื่อไม่มีการแจ้งไปยัง สตม. ผู้ต้องหาก็ออกมาเดินเพ่นพ่านได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ารับสินบน วันนี้ (3 ธ.ค.) ได้สั่งให้ชุดสืบสวน ตรวจสอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย หากพบความผิดก็ต้องนำมาดำเนินคดี ยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดรายบุคคล ไม่ใช่กระบวนการ เพราะเป็นเรื่องของการซื้อบริการ ไม่ใช่เรื่องของการค้ามนุษย์
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถือว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจทำดีก็มีเยอะ แต่ทำไม่ดีก็มีเยอะ ดังนั้นต้องแยกน้ำเสียออกจากน้ำดีให้ได้ ตำรวจคนไหนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ในสถานการณ์ปัจจุบัน ตำรวจต้องปรับพฤติกรรม วันนี้ระบบตรวจสอบมีเยอะ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ผู้กระทำผิดกลับไปอยู่เยอรมันก็ยังโพสต์ได้เลย ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินคดี.-317-สำนักข่าวไทย