ปักกิ่ง 22 ส.ค.- ทางการจีนห้ามคนในประเทศเชื่อมต่อสื่อสังคมออนไลน์ต่างประเทศอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แต่สื่อทางการจีนกลับมีผู้ติดตามผ่านสื่อสังคมออนไลน์เหล่านี้อย่างมากมาย โดยเป็นช่องทางสื่อสารเฉพาะข่าวด้านดีและข่าวที่ที่รับอนุมัติจากรัฐบาลแล้วเท่านั้น
ทั่วโลกเริ่มหันมาจับตามองเรื่องสื่อทางการจีนรุกสื่อสังคมออนไลน์ต่างประเทศเมื่อเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เผยเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า พบบัญชีจำนวนมากมีเนื้อหาโฆษณาชวนเชื่อหวังชี้นำความคิดของคนทั่วโลกเกี่ยวกับการประท้วงในฮ่องกง จึงได้ปิดบัญชีที่เชื่อว่าเกี่ยวโยงกับการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนของรัฐบาลจีน
เฟซบุ๊กหนังสือพิมพ์ไชนาเดลีของทางการจีนซึ่งมีผู้ติดตามไม่ต่ำกว่า 78 ล้านคน โพสต์เมื่อวันพุธระบุว่า ผู้ก่อจลาจลในฮ่องกงใกล้จะเข้าข่ายก่อการร้ายมากเข้าไปทุกขณะเพราะมีตั้งแต่ทำลายอาคารที่ทำการรัฐบาลไปจนถึงใช้วิธีรุมประชาทัณฑ์ ทั้งที่ไม่มีรายงานข่าวที่เชื่อถือได้ว่ามีการรุมประชาทัณฑ์ตลอดการประท้วงที่ดำเนินมา 11 สัปดาห์แล้ว ด้านสำนักข่าวซินหัวมีผู้ติดตามทวิตเตอร์กว่า 12 ล้านคน หนังสือพิมพ์พีเพิลเดลีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีผู้ติดตามทวิตเตอร์ 6.7 ล้านคน หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์มีผู้ติดตามทวิตเตอร์เกือบ 1.5 ล้านคน นายชุย เทียนไข่ เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐที่เพิ่งเล่นทวิตเตอร์เมื่อสองเดือนก่อนบอกเป็นนัย ๆ กับผู้ติดตามทวิตเตอร์ 15,000 คนเป็นภาษาอังกฤษว่า ผู้ประท้วงในฮ่องกงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลตะวันตก ฮ่องกงไม่ควรถูกใช้แทรกซึมและบ่อนทำลายจีนแผ่นดินใหญ่
โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนตอบสื่อเมื่อวันอังคารว่า ไม่ทราบเรื่องเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์อ้างว่ามีบัญชีโฆษณาชวนเชื่อที่มาจากจีน ส่วนการที่สื่อทางการจีนใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่างประเทศก็เพื่อสื่อสารสถานการณ์ นโยบาย และเรื่องราวของจีนไปยังโลกภายนอกได้ดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญนโยบายอินเทอร์เน็ต มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกงชี้ว่า รัฐบาลจีนไม่สนใจว่าจะมีคนเชื่อตามเนื้อหาในการโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ แต่เมื่อมีคนเห็นเนื้อหามากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะชาวจีนในต่างประเทศ คนเหล่านี้ก็จะเริ่มเกิดความไม่แน่ใจและสับสน การบิดเบือนข้อมูลของสื่อทางการจีนไม่ใช่การนำเสนอข้อมูลอีกด้าน แต่เป็นการล้างสมองในระดับโลก.-สำนักข่าวไทย