สหรัฐ 16 ส.ค.-ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปีนี้ มีสีสันแปลกๆมากมาย โดยเฉพาะนายโดนัลด์ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ล่าสุดเขาประกาศ เปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงกลับลำชนิด 360 องศา
โดยกล่าวว่า หากเขาชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ เขาจะร่วมมือกับนาโต้ในการบดขยี้กลุ่มก่อการร้ายไอเอส จากเดิมที่เคยพูดจาดูถูกองค์การนาโต้ว่าไร้น้ำยา พร้อมขู่จะไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญานาโต้ด้วย
โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงนโยบายด้านความมั่นคงครั้งสำคัญระหว่างหาเสียง ในเมืองยังส์ทาวน์ รัฐโอไฮโอ โดยระบุว่าเขาจะเปิดแนวรบทุกด้าน เพื่อกวาดล้างกลุ่มไอเอส ซึ่งรวมถึงการทำสงคราม ในโลกไซเบอร์ และการตัดเส้นทางลำเลียงทางการเงินของกลุ่มไอเอสด้วย โดยสหรัฐจะร่วมมือกับนาโต้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ภาระกิจลุล่วงนโยบายล่าสุด นายทรัมป์ที่แถลงออกมาตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาเคยพูดไปก่อนหน้านั้น
โดยการพูดจาดูหมิ่นถากถางองค์การนาโต้ในครั้งนั้น ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในหมู่ชาติพันธมิตรนาโต้ และแม้แต่สมาชิกระดับสูง ภายในพรรครีพับลิกันเองก็ยังรับไม่ได้กับคำพูดของทรัมป์ในครั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ให้เหตุผลการเปลี่ยนใจของเขาว่า เป็นเพราะว่านาโต้ได้ปรับปรุงกลยุทธใหม่ในการปราบปรามไอเอส ทำให้เขาคิดว่าตอนนี้นาโต้ ไม่ใช่องค์กรโบราณคร่ำครึอีกต่อไป โดยทรัมป์กำลังหมายถึงข่าวที่ว่าตอนนี้นาโต้ กำลังจะจัดตั้งหน่วยงานข่าวกรองขึ้นมาใหม่ เพื่อปรับปรุงการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนนโยบายห้ามชาวมุสลิมเข้าสหรัฐชั่วคราวนั้น ทรัมป์ยังคงยืนยันหนักแน่นว่า นโยบายนี้เขาเอาแน่ โดยจะพัฒนาการตรวจคัดกรองบุคคลอันตราย ที่จะเดินทางเข้ามาในสหรัฐให้ละเอียดมากขึ้น ทรัมป์กล่าวว่า ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีเขาจะสั่งการให้กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ระบุให้ชัดเจนไปเลยว่าภูมิภาคไหนของโลกที่เป็นอันตรายต่อสหรัฐ จะได้เน้นการตรวจคัดกรองคนจากภูมิภาคนั้นให้ละเอียดมากขึ้น ขณะที่ภูมิภาคที่ไม่เป็นอันตรายต่อสหรัฐ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจตราคนเหล่านั้นอย่างละเอียด.-สำนักข่าวไทย