สหรัฐ 17 พ.ค.- “ทรัมป์” ประกาศแก้กฎหมายคนต่างด้าว เปิดรับคนเก่ง-พูดอังกฤษได้ หลังเคยเสนอยกเลิกให้สัญชาติเด็กที่เกิดในสหรัฐ
ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดแถลงทางโทรทัศน์ ต้องการจะยกเครื่องระบบการเปิดรับคนเข้าเมืองเพื่อส่งเสริมให้คนในวัยหนุ่มสาวที่มีการศึกษาดี และพูดภาษาอังกฤษได้เข้ามาทำงานในสหรัฐแทนนโยบายเดิม ที่ใช้ความผูกพันในครอบครัวกับชาวอเมริกันเป็นหลักในการพิจารณา ถึงแม้ว่าคาดกันว่าจะเป็นกฎหมายที่ไปได้ไม่ไกล แต่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก
ทรัมป์ ระบุว่าแผนการเข้าเมืองใหม่นี้ จะทำให้ผู้ที่ได้รับกรีนการ์ดถึงร้อยละ 57 เป็นคนที่มีทักษะความรู้ความสามารถในการทำงาน ซึ่งจากเดิมคนกลุ่มนี้มีโควตาเพียงร้อยละ 12 ของผู้ที่ได้รับอนุญาตเข้าเมืองเท่านั้น ขณะที่ผู้อพยพที่มีสายสัมพันธ์ทางครอบครัว มีสัดส่วนได้รับกรีนการ์ดสูงถึงร้อยละ 66 แต่ในแผนไม่มีการพูดถึงว่าจะจัดการอย่างไรกับผู้อพยพหลายล้านคนในประเทศที่เข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ดี คาดว่าแผนการของทรัมป์ ไม่น่าจะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาสหรัฐในเวลานี้ เพราะพรรคเดโมแครตคงไม่เห็นด้วย แต่ทรัมป์ยังคงคาดหวังว่าหลังการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาและประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า (2020) จะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีต่อ และพรรคริพับลิกันจะได้ครองเสียงข้างมากในทั้งสองสภา จึงจะผ่านกฎหมายฉบับนี้ได้
ประชาชน 48 คนที่ได้สิทธิขอแปลงสัญชาติ เข้าพิธีสาบานตนเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองอเมริกันที่สำนักงานปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐโคโลราโด ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศต้องการแก้กฎหมายคนต่างด้าวที่จะให้สิทธิกับคนเก่งได้เข้าเป็นพลเมืองอเมริกัน มากกว่าการช่วยเหลือผู้อพยพเข้ามาตามหลักมนุษยธรรมและใช้สายสัมพันธ์ในครอบครัวเพื่อให้ได้สัญชาติอเมริกัน.-สำนักข่าวไทย