สิงคโปร์ 29 ม.ค.- กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แจ้งว่า ชาวอเมริกันที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีและถูกเนรเทศออกจากสิงคโปร์หลังรับโทษจำคุก ได้นำข้อมูลส่วนตัวของชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติ 14,200 คนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไปเผยแพร่ออนไลน์
กระทรวงเผยว่า นายมิกกี ฟาร์เรรา โบรเชซ พำนักอยู่ในสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2551 ถูกตัดสินในปี 2560 ว่ามีความผิดข้อหายาเสพติดและฉ้อโกงหลายข้อหา รวมทั้งโกหกกระทรวงแรงงานเรื่องการติดเชื้อเอชไอวีของตนเอง สัปดาห์ที่แล้วเขาได้นำข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ของชาวสิงคโปร์ 5,400 คนที่ถูกวินิจฉัยจนถึงเดือนมกราคม 2556 ว่าติดเชื้อเอชไอวี และชาวต่างชาติ 8,800 คนที่ถูกวินิจฉัยจนถึงเดือนธันวาคม 2554 ว่าติดเชื้อเอชไอวีไปเผยแพร่ออนไลน์ กระทรวงทราบเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ว่าเขามีข้อมูลลับที่เชื่อว่าได้จากสำนักทะเบียนเอชไอวี และเพิ่งทราบเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเขายังคงครอบครองข้อมูลเหล่านี้อยู่
นายโบรเชซติดเชื้อเอชไอวี แต่นำตัวอย่างเลือดของคู่รักชายที่เป็นแพทย์ชาวสิงคโปร์ไปสมัครงาน คู่รักของเขาเคยเข้าถึงข้อมูลของสำนักทะเบียนเอชไอวีมาก่อน กระทรวงไม่ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ชายอเมริกันรายนี้ได้ข้อมูลมาได้อย่างไร และนำข้อมูลไปเผยแพร่ด้วยจุดประสงค์ใด สันนิษฐานว่าคู่รักของเขาน่าจะเก็บข้อมูลไม่ดี นายโบรเชซถูกเนรเทศออกจากสิงคโปร์ไปแล้วหลังรับโทษจำคุก ทางการกำลังขอความร่วมมือจากต่างประเทศในการติดตามตัวเขา และประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ลบข้อมูลที่ถูกเผยแพร่แต่ไม่ได้ระบุว่าถูกเผยแพร่ที่ใด
ช่วงที่เชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์เริ่มระบาดในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 หลายประเทศจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของผู้ติดเชื้อและคนทำงานต่างชาติ ปัจจุบันเหลือประเทศพัฒนาแล้วเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังจำกัดการให้วีซ่าพำนักระยะยาวและวีซ่าทำงานแก่ผู้ติดเชื้อ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้.- สำนักข่าวไทย