วอชิงตัน 20 ธ.ค.- อัยการใหญ่ดิสทริกออฟโคลัมเบีย (ดีซี) ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงวอชิงตัน ยื่นฟ้องเฟซบุ๊กละเมิดความเป็นส่วนตัวผู้ใช้กรณีแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้ให้แก่บริษัทที่ปรึกษาการหาเสียงเลือกตั้งปี 2559 ของโดนัลด์ ทรัมป์
นับเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถูกหน่วยงานรัฐของสหรัฐยื่นฟ้อง ซึ่งอาจจะทำให้เฟซบุ๊กต้องถูกลงโทษเรื่องนำข้อมูลผู้ใช้ไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง นายคาร์ล ราซีน อัยการใหญ่ดีซีฟ้องต่อศาลสูงในวอชิงตันขอให้สั่งให้เฟซบุ๊กมีมาตรการป้องกันการติดตามข้อมูลผู้ใช้ อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้กำหนดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ง่ายขึ้น และชดใช้ความเสียหายให้แก่ผู้ใช้ นายราซีนกล่าวว่า เฟซบุ๊กไม่ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ หลอกลวงผู้ใช้เรื่องผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลและวิธีการนำข้อมูลไปใช้ ปล่อยให้บริษัทภายนอกอย่างเคมบริดจ์อะนาลีติกาและแอปพลิคชันภายนอกอื่น ๆ รวบรวมข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ขออนุญาต ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงถูกฉวยประโยชน์
เฟซบุ๊กแจ้งว่า กำลังพิจารณาเรื่องที่ถูกฟ้องและพร้อมหารือกับอัยการใหญ่ดีซีและอัยการใหญ่ทุกแห่ง ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กยอมรับว่า ข้อมูลผู้ใช้มากถึง 87 ล้านรายอาจถูกเคมบริดจ์อะนาลีติกาเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานผู้เปิดโปงบริษัทตัวเองเผยว่า บริษัทที่ปรึกษาการหาเสียงให้ทรัมป์แห่งนี้นำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กมาสร้างกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทจะส่งโพสต์ที่ออกแบบมาสำหรับแต่ละบุคคลเพื่อผลทางการเมือง
ล่าสุดหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า มีบริษัทราว 150 แห่ง เข้าถึงรายละเอียดข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยระบุว่าเฟซบุ๊กให้ Bing เสิร์ชเอนจินส์ของไมโครซอฟต์เห็นรายชื่อเพื่อนผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้ Netflixและ Spotify อ่านข้อความส่วนตัวของผู้ใช้ ให้ Amazon เข้าถึงชื่อและข้อมูลติดต่อของผู้ใช้ผ่านทางเพื่อน และให้ Yahoo เห็นโพสต์ของเพื่อนผู้ใช้ได้.- สำนักข่าวไทย