เจาะลึก! ชะลอแผนภาษี สงครามการค้าจีน-สหรัฐ

สำนักข่าวไทย 3 ธ.ค. – โลก…โล่งอก “สงครามการค้าจีนกับสหรัฐยังไม่ถึงจุดเดือด หลังตกลงชะลอแผนกำแพงภาษีเต็มพิกัดออกไป 90 วัน หลังประชุมจี 20 ทั้งมังกรและพญาอินทรี Win-Win ทั้งคู่





ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีน พบหารือในการประชุม จี 20 ที่อาร์เจนตินาและตกลงเลื่อนการใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันออกไปอีก 90 วัน จากเดิมที่กำหนดจะเริ่มใช้อัตราภาษีใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 และจะเดินหน้าเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งด้านการค้า


โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า สหรัฐตกลงกับจีนในการประชุมสุดยอดจี20 ที่ อาร์เจนตินา ว่า จะระงับนโยบายเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่กับจีนไว้ 90 วัน จากเดิมที่กำหนดจะเริ่มใช้อัตราภาษีใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า และจะเดินหน้าเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งด้านการค้า แถลงการณ์มีขึ้นภายหลังการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอด จี 20 ในกรุงบัวโนสไอเรสเมื่อวันเสาร์

โดยถือเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกหลัง 2 ประเทศเปิดสงครามการค้ากันในปีนี้ ทำเนียบขาวยังได้บอกด้วยว่า จีนตกลงจะนำเข้าสินค้าเกษตร พลังงาน อุตสาหกรรม และอื่นๆ จากสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลอื่นใดอีก ทางด้านนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน แถลงภายหลังงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำผู้นำจี20 ว่านายทรัมป์และนายสีได้บรรลุข้อตกลงกันเพื่อระงับการขึ้นภาษีกับสินค้าจีนแล้ว และกล่าวยินดีในการหารือกับประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อปูทางไปสู่ความร่วมมือที่ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

ขณะที่การประชุมผู้นำจี 20 ที่ปิดฉากไปเมื่อวานนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประกาศปฏิญญาร่วมกัน โดยกล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งทางการค้า แต่ไม่ได้แตะเรื่องการปกป้องและกีดกันทางการค้าเลย

ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวสหรัฐขู่จะขึ้นภาษีกับสินค้าจีนคิดเป็นมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ (6.6 ล้านล้านบาท) ซึ่งเดิมกำหนดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป แต่ตัดสินใจระงับไว้ก่อนเป็นเวลา 90 วัน หากครบกำหนดตามระยะเวลาดังกล่าวและทั้งสองฝ่ายยังไม่บรรลุข้อตกลงกัน สหรัฐก็จะขึ้นภาษีกับสินค้าจีนจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ตามแผนที่ประกาศไว้เดิม

แม้จีนกับสหรัฐจะบรรลุข้อตกลงสงบศึกการค้าเป็นเวลา 90 วัน เพื่อเปิดทางเจรจากัน ทว่าการหาจุดลงรอยของ 2 มหาอำนาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยแม้แต่น้อย

ระยะหลังการประชุมจี 20 มักไม่มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนนัก เนื่องจากสภาพการณ์ของการเมืองโลกที่แตกเป็นฝ่ายมากขึ้นทุกที แต่การประชุมครั้งล่าสุดที่อาร์เจนตินา กลับมีผลสะเทือนครั้งสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เมื่อ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แห่งจีน กับ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ร่วมประชุมนอกรอบระหว่างการรับประทานอาหารค่ำนานถึง 2 ชม. เพื่อสะสางปัญหาที่เกิดจากการเผชิญหน้ากัน จนนำไปสู่ภาวะ “สงครามเศรษฐกิจ” ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงไทย

แต่ในที่สุด สีจิ้นผิงกับทรัมป์ก็สามารถลงรอยกันได้ชั่วคราว โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะสงบศึกเป็นเวลา 90 วันนับจากนี้ และสหรัฐจะระงับการขึ้นภาษีสินค้าจีน 25% เป็นเงิน 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐไปก่อน โดยมีกำหนดการที่จะประกาศใช้มาตรการนี้ในวันที่ 1 ม.ค. 2019 หลังจากใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้กันไปมาตั้งแต่ช่วง ม.ค.2018 ขณะที่จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเพิ่มจากสหรัฐของภาคเกษตร, พลังงาน และอุตสาหกรรม รวมถึงสินค้ากลุ่มอื่นๆ แม้จะยังไม่ตกลงกันว่าจะนำเข้าในปริมาณเท่าไร แต่ทำเนียบขาวแถลงว่าจะมีปริมาณมากพอสมควร เพื่อลดตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีน

ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างขึ้นเครืองแอร์ฟอร์ซวันเดินทางกลับประเทศว่า “เป็นข้อตกลงที่เหลือเชื่อมาก ที่เราจะทำก็คือยับยั้งการขึ้นภาษีไว้ก่อน ส่วนจีนจะเปิดตลาดให้มากขึ้น จีนจะระงับพิกัดภาษี จีนจะซื้อสินค้ามากมายมหาศาลจากเรา”

ในระหว่างนี้จีนกับสหรัฐจะเจรจาเพื่อหาจุดลงรอยในเรื่องการค้า แต่ประเด็นที่จะหารือไม่อาจหาข้อสรุปได้โดยง่าย เพราะเป็นปมเงื่อนความขัดแย้งใหญ่หลวง เช่น ท่าทีของสหรัฐที่ไม่พอใจกับนโยบายของจีน ที่บังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เพื่อแลกกับการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก, ประเด็นที่สหรัฐอ้างว่าจีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, การล่วงล้ำและฉกชิงข้อมูลไซเบอร์, ปัญหาการใช้มาตรการที่มิใช้ภาษีในการกีดกันการค้า และภาคการบริการกับภาคเกษตร

สำนักข่าวเกียวโดมีบทวิเคราะห์เรื่องข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ โดยชี้ว่า สงครามการค้ายังจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะจีนมีเป้าหมายในการรื้อฟื้นความยิ่งใหญ่ของประเทศ ซึ่งไม่พ้นที่จะขัดแย้งกับมหาอำนาจอย่างสหรัฐแน่นอน นักการทูตรายหนึ่งในปักกิ่งเผยว่า สีจิ้นผิงจะไม่ยอมวางมือจากนโยบายสร้างจีนให้ยิ่งใหญ่ง่ายๆ จึงยากที่จีนจะยอมโอนอ่อนให้กับความต้องการของทรัมป์ไปเสียทั้งหมด ส่วนฝ่ายสหรัฐเองก็จะไม่ยอม หากจีนไม่อ่อนข้อให้ตามที่สหรัฐต้องการ -.สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]

ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์

กัมพูชา 10 ก.ย.- ไทย-กัมพูชา เดินหน้าคืนสันติภาพชายแดน ผลประชุม GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง สรุป 5 ประเด็นสำคัญ ตั้งแต่ถอนอาวุธหนัก เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ ไปจนถึงจัดการพื้นที่พิพาท รมช.กลาโหม ย้ำสองประเทศต้องอยู่ร่วมกันด้วยสันติวิธี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ วันที่ 10 กันยายน 2568 ณ จังหวัดเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการตามผลการประชุม GBC ที่มาเลเซียที่ผ่านมา เพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขกลับมาสู่พื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร พร้อมย้ำถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในภาพรวม หลังการหยุดยิงดำเนินมากว่า 1 เดือน ว่ามีความสงบมากขึ้น แม้ยังมีข้อกังวลบางประการที่ต้องแก้ไข เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับมาเต็มร้อย โดยผลการประชุมสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ 1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 […]