ซีแอตเทิล 14 ก.ย.- เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแอมะซอนที่เป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้เผยว่า จะมอบเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 65,211 ล้านบาท) ช่วยเหลือครอบครัวจรจัดและให้การศึกษาก่อนวัยเรียนแก่ชุมชนรายได้น้อย
นายเบโซสวัย 54 ปี มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 160,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 5.22 ล้านล้านบาท) เพราะถือหุ้นใหญ่ในแอมะซอนที่ครองตลาดอีคอมเมิร์ซและธุรกิจคลาวด์คอมพิวติง จนกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของโลกรองจากแอปเปิลอิงก์ เขาให้เงินสนับสนุนการวิจัยมะเร็ง ให้ทุนการศึกษาแก่ผู้เข้าเมือง และทุ่มเทให้แก่บริษัทจรวดบลูออริจินของเขาที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางอวกาศ ล่าสุดเขาทวีตเมื่อวานนี้ว่า จะตั้งกองทุนเบโซสเดย์วัน ตามปรัชญาการบริหารของเขาที่ว่าองค์กรจะต้องเริ่มต้นทุกวันด้วยความกระตือรือร้นที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ไม่เช่นนั้นก็จะหยุดอยู่กับที่และเสื่อมถอย กองทุนนี้จะสนับสนุนองค์กรนอกภาครัฐที่ให้ที่พักและอาหารแก่ครอบครัวจรจัดอายุน้อย และตั้งองค์กรบริหารเครือข่ายโรงเรียนก่อนวัยเรียนพร้อมทุนการศึกษาให้แก่ชุมชนรายได้น้อย เขาย้ำคาถาขององค์กรว่า เด็กคือลูกค้าในอนาคต
อย่างไรก็ดี เบโซสยังไม่ได้เข้ากลุ่ม The Giving Pledge ที่บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์และภรรยาร่วมก่อตั้งกับวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ มีเศรษฐีกว่า 180 คนลงนามว่าจะยกทรัพย์สินกว่าครึ่งให้แก่การกุศล ขณะที่ สว.เบอร์นี แซนเดอร์ส ผู้ชิงเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 เสนอร่างกฎหมายหยุดยั้งเบโซส กำหนดให้บริษัทใหญ่ต้องจ่ายเงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือสมทบเงินเพิ่มขึ้นในโครงการช่วยเหลือสาธารณะอย่างเมดิเคดที่เป็นโครงการสุขภาพแก่คนยากจน.- สำนักข่าวไทย