แอตแลนตา 31 ส.ค.- โคคา-โคลาหรือโค้ก ผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ของโลกตกลงซื้อกิจการรวมทั้งหนี้สินของคอสต้าคอฟฟี่ ร้านกาแฟอังกฤษใหญ่อันดับสองของโลก หวังเข้าสู่ธุรกิจตลาดกาแฟที่กำลังเป็นที่นิยม
โค้กและวิทเบรด เจ้าของคอสต้าคอฟฟี่แถลงร่วมกันวันนี้ว่า โค้กจะซื้อสาขาทั้งหมดของคอสต้าคอฟฟี่รวมทั้งหนี้สิน เป็นข้อตกลงมูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 166,930 ล้านบาท) ที่คณะกรรมการบริหารวิทเบรดให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ข่าวนี้ทำให้ราคาหุ้นของวิทเบรดทะยานขึ้นทันทีร้อยละ 19 ในการซื้อขายเช้าวันนี้ เพราะบรรลุข้อตกลงสูงกว่าที่ตลาดคาดหมายถึง 911 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29,816 ล้านบาท)
เจมส์ ควินซี ประธานกรรมการบริหาร (ซีอีโอ) โค้กกล่าวว่า เครื่องดื่มร้อนเป็นเครื่องดื่มไม่กี่ประเภทที่โค้กยังไม่มีเครื่องหมายการค้าระดับโลก การซื้อคอสต้าคอฟฟี่ช่วยให้บริษัทเข้าตลาดนี้ด้วยฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ขณะที่รอยเตอร์มองว่า การซื้อคอสต้าคอฟฟี่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากสตาร์บัค ช่วยเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจและขยายทางเลือกของโค้กในยามที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นและหลายประเทศเริ่มเก็บภาษีน้ำตาลในเครื่องดื่ม
วิทเบรดตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2285 หรือ 276 ปีก่อนด้วยธุรกิจกลั่นสุรา ก่อนขยายไปยังธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ซื้อคอสต้าคอฟฟี่ที่มีเพียง 39 สาขาในปี 2538 ด้วยราคา 19 ล้านปอนด์ (ราว 809 ล้านบาทในปัจจุบัน) ปัจจุบันเป็นร้านกาแฟตามย่านหรูหราของอังกฤษ มีสาขา 2,422 แห่งทั่วประเทศ และอีก 1,399 แห่งทั่วโลก วิทเบรดจำต้องขายคอสต้าคอฟฟฟี่ตามแรงกดดันของกองทุนเก็งกำไรที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่.- สำนักข่าวไทย