วอชิงตัน 20 ก.ย.- สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งในสหรัฐราว 1 ใน 4 อยู่ในพื้นที่ที่จะใช้เครื่องลงคะแนนแบบหน้าจอสัมผัสในการเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ทั้งที่มีความกังวลว่าเสี่ยงมีปัญหาหรือความผิดพลาด
รอยเตอร์วิเคราะห์ข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐ คณะกรรมการช่วยเหลือการเลือกตั้ง และมูลนิธิการลงคะแนนที่ถูกต้องพบว่า ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งปีนี้อยู่ในพื้นที่ที่ใช้เครื่องลงคะแนนแบบหน้าจอสัมผัส 44 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 25 ลดลงจากร้อยละ 27 ในการเลือกตั้งปี 2555 และร้อยละ 31 ในการเลือกตั้งปี 2551 เจ้าหน้าที่เลือกตั้งยืนยันว่า เครื่องเชื่อถือได้เพราะมีการทดสอบหลายครั้งและได้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำคูหา ส่วนการเจาะระบบไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเครื่องไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์แย้งว่า ระบบแบบนี้เต็มไปด้วยไวรัสและช่องโหว่ด้านความปลอดภัย การไม่มีเอกสารที่เป็นกระดาษทำให้ไม่มีทางพิสูจน์อย่างเป็นอิสระได้ว่าเครื่องบันทึกผลการลงคะแนนอย่างถูกต้องแม่นยำ ท่ามกลางเสียงครหาว่าแฮกเกอร์ชาวรัสเซียเจาะข้อมูลของกลุ่มการเมืองและระบบลงคะแนนระดับรัฐ ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเครื่องลงคะแนนถูกเจาะระบบ แต่ผู้ประสงค์ร้ายก็อาจแพร่ไวรัสผ่านการ์ดความจำ หนทางป้องกันที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนไปใช้ระบบลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้ง
เครื่องลงคะแนนแบบหน้าจอสัมผัสส่วนใหญ่ใกล้จะหมดอายุการใช้งาน ทำให้เสี่ยงถูกเจาะระบบมากขึ้น ขณะที่รัฐสภาสหรัฐไม่ได้อนุมัติงบประมาณปรับปรุงมาตั้งแต่ปี 2545 หรือหลังจากเกิดเหตุการนับคะแนนที่รัฐฟลอริดาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2543 มีปัญหา บางเขตเลือกตั้งได้เปลี่ยนไปใช้เครื่องกวาดภาพด้วยแสงบันทึกบัตรเลือกตั้งทำให้มีความแม่นยำมากกว่า บางเขตติดตั้งเครื่องพิมพ์เข้ากับเครื่องแบบหน้าจอสัมผัส.- สำนักข่าวไทย