โคลัมโบ 7 มี.ค.- ตำรวจศรีลังกาเผยในวันนี้ว่า ฝูงชนชาวพุทธทำลายมัสยิดและร้านค้าของชาวมุสลิมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทั้งที่ทางการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ตำรวจเผยว่า เมืองแคนดี้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมยังคงเกิดเหตุตลอดคืนทั้งที่ตำรวจประกาศห้ามออกนอกเคหหสถานยามวิกาลหรือเคอร์ฟิวอย่างไม่มีกำหนด เพราะเป็นศูนย์กลางการก่อจลาจลที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ หลังจากวัยรุ่นชายชาวพุทธคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะวิวาทกับกลุ่มชาวมุสลิม ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ 7 คน และมีตำรวจถูกทำร้ายบาดเจ็บ 3 นาย รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 10 วัน เริ่มตั้งแต่วันอังคาร หวังหยุดยั้งความรุนแรงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นของประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก หลังจากสงครามกลางเมืองนาน 26 ปีกับกลุ่มพยัคฆ์อีแลมยุติลงเมื่อปี 2552
รัฐมนตรีคนหนึ่งระบุว่า เหตุรุนแรงในเมืองแคนดี้ขณะนี้เกิดจากคนนอกเข้าไปก่อกวน และมีกลุ่มสมรู้ร่วมคิดอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับยืนยันว่า รัฐบาลจะใช้หลักนิติธรรมอย่างเท่าเทียมกับประชากรทั้ง 21 ล้านคน ไม่ว่าชาวพุทธที่เป็นประชากรส่วนใหญ่หรือชาวมุสลิมที่มีจำนวนน้อยที่สุดราวร้อยละ 9 ขณะเดียวกันตำรวจได้สั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศระงับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในเมืองแคนดี้ เนื่องจากมีคนโพสต์เฟซบุ๊กขู่ทำร้ายชาวมุสลิม.- สำนักข่าวไทย