เจนีวา 22 ส.ค.- องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ออกรายงานและคำแนะนำร่วมกัน เน้นย้ำเรื่องความท้าทายด้านสุขภาพทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น จากการที่สภาพอากาศร้อนจัดส่งผลต่อสุขภาพของคนทำงาน
ดร.เจเรมี ฟาร์ราร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันและควบคุมโรคกล่าวว่า ภาวะเครียดจากความร้อน (heat stress) กำลังเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำงานหลายพันล้านคน โดยเฉพาะในชุมชนที่เปราะบางมากที่สุด คำแนะนำใหม่นี้เสนอทางออกที่ปฏิบัติได้และอ้างอิงจากหลักฐานที่ปรากฏ เพื่อปกป้องชีวิต ลดความไม่เท่าเทียม และสร้างกำลังแรงงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในโลกที่กำลังร้อนขึ้น
รายงานชื่อ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะเครียดจากความร้อนในที่ทำงาน” ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์องค์การอนามัยโลกวันนี้ รวบรวมจากการวิจัยและหลักฐานต่าง ๆ ตลอด 5 ทศวรรษ เน้นย้ำเรื่องสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของคนทำงานได้รับผลกระทบร้ายแรงจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น โดยพบว่าประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลงร้อยละ 2-3 ต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น 1 องศาเซลเซียสจาก 20 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว รายงานพบด้วยว่า ประชากรโลกราวครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบทางลบจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น

ด้านองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่า ปี 2567 ที่ผ่านมาเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ นางโค แบร์เร็ตต์ รองเลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกกล่าวว่า ภาวะเครียดจากความร้อนในที่ทำงานได้กลายเป็นความท้าทายเชิงสังคมในระดับโลก การปกป้องคนทำงานจากอากาศร้อนจัดไม่เพียงเป็นเรื่องจำเป็นทางสุขภาพ แต่ยังเป็นเรื่องจำเป็นทางเศรษฐกิจด้วย
เมื่อไม่นานมานี้องค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือไอแอลโอ (ILO) ได้ออกรายงานเตือนว่า คนทำงานมากกว่า 2,400 ล้านคนเสี่ยงภัยจากอากาศร้อนจัดทั่วโลก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงานปีละไม่ต่ำกว่า 22.85 ล้านคน.-814.-สำนักข่าวไทย