ฮานอย 8 ส.ค.- เจ้าหน้าที่เวียดนามคาดว่า จำนวนรถแท็กซี่ในนครโฮจิมินห์จะเพิ่มขึ้นเกินกว่าจำนวนที่คาดไว้ และมากกว่าความต้องการของผู้ใช้บริการ ซึ่งจะทำให้เกิดมลภาวะบนถนนที่แออัด สิ้นเปลือง และมลพิษทางสิ่งแวดล้อม
สำนักงานการขนส่งนครโฮจิมินห์ระบุว่า ขณะนี้มีรถแท็กซี่ในนครโฮจิมินห์ทั้งหมด 10,700 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.6 เกินกว่าที่คาดไว้ในปี 2553-2558 อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการรถแท็กซี่ทั้ง 36 รายวางแผนจะปล่อยรถออกมามากขึ้นในปีที่จะถึง ซึ่งจะเกินปริมาณความต้องการ ถนนในนครโฮจิมินห์มีระยะทางยาว 4,100 กิโลเมตร เพียงร้อยละ 41 ของถนนมีความกว้างกว่า 7 เมตร และอีกร้อยละ 51 ไม่มีการปูพื้นถนนหรือมีความกว้างน้อยกว่า 1 เมตร
ขณะที่กรุงฮานอย มีรถแท็กซี่ประมาณ 17,400 คัน แต่มีที่จอดรถสำหรับแท็กซี่โดยเฉพาะเพียง 200 คัน ในขณะเดียวกันคนขับรถแท็กซี่ไม่พอใจคู่แข่งคือ อูเบอร์ หรือแกร็บที่มาแย่งลูกค้า คนขับรถแท็กซี่ขับรถเป็นระยะทางประมาณวันละ 200 กิโลเมตร โดยครึ่งหนึ่งของระยะทางใช้ขับตระเวนหาผู้โดยสาร ซึ่งเปลืองน้ำมันคิดเป็นมูลค่ารวมวันละ 4,500,000 บาท
นายเหวียน บ่า ฮวง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัย Transport ในโฮจิมินห์ แนะนำให้รวบรวมข้อมูลพาหนะการเดินทางภายในเมือง เพื่อนำมาประเมินแก้ไขปัญหารถติดในเมือง และกล่าวว่า เวียดนามควรนำแบบอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วมาใช้ เช่น การอนุญาตให้รถเข้าตัวเมืองชั้นในได้เมื่อมีผู้โดยสาร 2-3 คนขึ้นไป ดร.โง เวียดนาม ซอน ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งในเขตเมือง แนะนำให้รัฐบาลสร้างถนนเลนพิเศษสำหรับรถเมล์หรือรถขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว แต่จะต้องมีผู้โดยสารตามพิกัดที่รองรับได้ เขาบอกด้วยว่าคนขับรถแท็กซี่ควรใช้แอปพลิเคชันมือถือเป็นตัวช่วย เพื่อหาผู้โดยสาร ลดปัญหาการจราจรติดขัด และกระตุ้นการแข่งขันระหว่างกัน .- สำนักข่าวไทย