เจนีวา 11 ต.ค.- สหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า คนในฉนวนกาซามากกว่า 260,000 คนต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น ในขณะที่อิสราเอลยังคงระดมถล่มฉนวนกาซาทั้งจากทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติหรือโอซีเอชเอ (OCHA) แถลงความคืบหน้าเมื่อวันอังคารว่า เชื่อว่ามีคนในกาซามากกว่า 263,900 คนต้องหนีออกจากบ้านเรือน และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีก โดยก่อนหน้านี้มีคน 3,000 คนต้องพลัดถิ่นเพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ก่อนหน้ากลุ่มฮามาสเริ่มโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ตั้งแต่วันเสาร์
โอซีเอชเออ้างทางการปาเลสไตน์ว่า ปฏิบัติการถล่มของอิสราเอลทำลายบ้านเรือนไปมากกว่า 1,000 หลัง และมีบ้านเรือนถูกทำลายจนไม่สามารถอาศัยได้ 560 หลัง ผู้พลัดถิ่นราว 175,500 คนอาศัยในโรงเรียนขององค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์และตะวันออกใกล้ (UNRWA) ผู้พลัดถิ่นอีก 14,500 คนอาศัยในโรงเรียนของรัฐบาล และอีก 74,000 คนเชื่อว่าอาศัยอยู่กับญาติหรือที่พักพิงอื่น ๆ จำนวนผู้พลัดถิ่นในกาซาขณะนี้มากที่สุดนับจากสงครามอิสราเอล-ฮามาสปี 2557 ที่ดำเนินไปนาน 50 วัน
เจ้าหน้าที่กาซาแจ้งว่า มีคนถูกสังหารแล้ว 900 คนตั้งแต่อิสราเอลเริ่มใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ขณะที่อิสราเอลแจ้งว่า มีคนในอิสราเอลเสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน จากการถูกโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศอิสราเอลเมื่อ 75 ปีก่อน ด้านอันโตนีโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็นเตือนว่า การที่อิสราเอลปิดล้อมฉนวนกาซาอย่างเบ็ดเสร็จด้วยการตัดน้ำตัดไฟ ตัดการส่งอาหารและเชื้อเพลิง จากเดิมที่ปิดล้อมอยู่แล้วจะทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซาที่เลวร้ายอยู่แล้วเลวร้ายลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย