ซีเรีย 26 มิ.ย. – ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในค่ายพักกลางทะเลทรายในจอร์แดนได้รับความช่วยเหลือให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างไร ติดตามในสารคดีโลก
นับเป็นการเริ่มอนาคตใหม่ที่สดใสของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในค่ายพักอัซรัค ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทราย ที่จะได้มีไฟฟ้าใช้ในค่ายพักเหมือนคนทั่วไป เมื่อมูลนิธิอิเกียของห้างค้าปลีกเครื่องเรือนของใช้ภายในบ้านของสวีเดน ได้ระดมเงินผ่านโครงการ Brighter Lives for Refugees จำนวน 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 157 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ ทำให้ที่นี่เป็นค่ายผู้ลี้ภัยแห่งแรกในจอร์แดนที่ได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยเฟสแรกของโครงการจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ผู้ลี้ภัยได้ 20,000 คน จากทั้งหมด 35,000 คน ในค่ายได้ใช้
จอร์แดนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียไว้ราว 660,000 คน กระจายไปอยู่ตามค่ายต่างๆ โดยอัซรัคเป็นค่ายใหญ่อันดับ 2 ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2557 ในช่วงกว่า 2 ปีแรกที่ก่อตั้ง ผู้ลี้ภัยมีเพียงแค่โคมไฟพลังแสงอาทิตย์ ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ทำให้พวกเขาต้องทนกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อน และหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว ทั้งยากลำบากในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น ทำอาหาร ซักผ้า เรียนหนังสือ การออกไปห้องน้ำในเวลากลางคืนก็อาจเป็นอันตรายได้สำหรับผู้หญิงและเด็ก
โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งนี้ช่วยให้สำนักงานผู้ลี้ภัยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 52 ล้านบาท ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยกลุ่มอื่นๆ ทั้งยังเป็นโครงการที่ช่วยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม และทำให้ผู้ลี้ภัยและชาวจอร์แดนมีงานทำเพิ่มขึ้น อะมัล มูฮัมเหม็ด ผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่ายอัซรัคมา 2 ปีแล้ว บอกว่าไฟฟ้าช่วยให้ชีวิตของเธอดีขึ้นมาก ก่อนหน้านี้เธอมักรู้สึกหวาดกลัวเวลาที่ออกไปข้างนอกตอนกลางคืน ขณะนี้ค่ายผู้ลี้ภัยซาตาริ ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในจอร์แดน กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย