สิงคโปร์ 20 มิ.ย.- ผลการศึกษาที่เผยแพร่วันนี้พบว่า อาการปวดศีรษะและเนื้อตัวทำให้เศรษฐกิจสิงคโปร์เสียหายมากถึงปีละ 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 285,495 ล้านบาท) และผู้มีอาการส่วนใหญ่มักไม่ไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษา
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์สเตรทส์ไทมส์เผยแพร่ดัชนีปวดทั่วโลกของบริษัทแกล็กโซสมิทไคล์น (จีเอสเค) ประจำปี 2560 ที่สำรวจกับผู้ใหญ่ 19,000 คน ใน 32 ประเทศ เรื่องอาการปวดทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรังพบว่า ชาวสิงคโปร์มีอาการปวดศีรษะและเนื้อตัวมากถึงร้อยละ 85 ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับอัตราเฉลี่ยทั่วโลก เกือบ 2 ใน 3 วินิจฉัยหาสาเหตุเองทั้งที่ไม่มีความรู้ทางการแพทย์อย่างแท้จริง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปวดในสิงคโปร์กล่าวว่า อาการปวดศีรษะและปวดตามเนื้อตัวดูเหมือนจะไม่มีผลร้ายแรง แต่ดัชนีนี้ชี้ให้เห็นว่า หากไม่จัดการอย่างถูกต้องจะมีผลสะสมได้
สเตรทส์ไทมส์รายงานด้วยว่า ปีที่แล้วคนทำงานในสิงคโปร์ลาป่วยเฉลี่ย 3 วัน เพราะมีอาการปวด ส่วนผู้ที่ยังฝืนทำงานทั้งที่ปวดมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลงร้อยละ 15 แต่ส่วนใหญ่ไม่ไปพบแพทย์เพื่อรักษา กว่าครึ่งทนปวดเอาไว้ หนึ่งในสามทำเป็นไม่สนใจ และส่วนใหญ่เก็บงำอาการไว้เพราะไม่อยากให้คนในครอบครัวเป็นห่วง.- สำนักข่าวไทย