ริยาด 3 เม.ย.- ราคาน้ำมันซื้อขายที่ตลาดเอเชียในเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นเกือบร้อยละ 6 หลังจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่นำโดยซาอุดีอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตวันละ 1 ล้านบาร์เรล โดยอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวล่วงหน้าเพื่อให้ตลาดมีเสถียรภาพ
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียตดีดตัวขึ้นร้อยละ 5.74 เป็นบาร์เรลละ 80.01 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,755 บาท) ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดีดตัวขึ้นร้อยละ 5.67 เป็นบาร์เรลละ 84.42 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,907 บาท) หลังจากซาอุดีอาระเบีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี คูเวต แอลจีเรีย และโอมานประกาศลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงสิ้นปี 2566 วันละ 1 ล้านบาร์เรล มากที่สุดนับจากโอเปกพลัสที่ประกอบด้วยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกลดกำลังผลิตวันละ 2 ล้านบาร์เรลเมื่อเดือนตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบียย้ำว่า เป็นมาตรการป้องกันล่วงหน้าเพื่อให้ตลาดน้ำมันมีเสถียรภาพ ด้านรัสเซียประกาศขยายการลดกำลังผลิตวันละ 500,000 บาร์เรลจากขณะนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2566 เช่นกัน โดยระบุว่าเป็นการกระทำด้วยความรับผิดชอบและเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันในยูเออีอธิบายว่า ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันโลกลดลงเพราะตลาดกังวลเรื่องภาคการธนาคารจะเกิดวิกฤตหลังจากธนาคารในสหรัฐปิดตัว ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจึงต้องลดกำลังผลิตเพื่อพยุงราคาให้รัฐมีรายได้สำหรับนำไปใช้ในงบประมาณรายจ่ายปีนี้และแผนการทางเศรษฐกิจในอนาคต เดิมโอเปกคาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ว่า ความต้องการน้ำมันโลกในปี 2566 จะเพิ่มขึ้นวันละ 2.3 ล้านบาร์เรลเป็นเฉลี่ยวันละ 101.87 ล้านบาร์เรล.-สำนักข่าวไทย