โซล 30 ม.ค.- เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) ขอให้เกาหลีใต้เพิ่มการสนับสนุนทางทหารให้แก่ยูเครน โดยเสนอแนะให้เกาหลีใต้ทบทวนนโยบายไม่ส่งออกอาวุธให้แก่ประเทศที่กำลังมีความขัดแย้ง
นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เริ่มต้นการเยือนเอเชียตั้งแต่วันอาทิตย์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศประชาธิปไตยในเอเชียในช่วงที่กำลังมีสงครามในยูเครนและเผชิญการแข่งขันจากจีน เขาพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ และกล่าวที่สถาบันเชย์เพื่อการศึกษาขั้นสูงในกรุงโซลวันนี้ว่า ขอให้เกาหลีใต้เพิ่มความช่วยเหลือยูเครนเพราะยูเครนกำลังต้องการเครื่องกระสุนอย่างเร่งด่วน เขายกตัวอย่างเยอรมนีและนอร์เวย์ว่า มีนโยบายไม่ส่งออกอาวุธให้แก่ประเทศที่อยู่ในความขัดแย้ง แต่ต้องปรับเปลี่ยนนโยบายที่ใช้มายาวนานหลังจากรัสเซียรัสเซียรุกรานยูเครน พร้อมกับย้ำว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียจะต้องไม่ชนะสงครามนี้ ไม่เช่นนั้นโลกจะตกอยู่ในอันตรายยิ่งกว่าเดิม เพราะจะเป็นการส่งสารให้บรรดาผู้นำเผด็จการใช้กำลังเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
เกาหลีใต้เปิดที่ทำการทางการทูตในนาโตแห่งแรกเมื่อปีก่อน ปัจจุบันเกาหลีใต้กลายเป็นผู้ส่งออกอาวุธระดับโลก และเพิ่งลงนามข้อตกลงจำหน่ายรถถังให้แก่ประเทศในยุโรป แต่กฎหมายเกาหลีใต้ห้ามส่งออกอาวุธให้แก่ประเทศที่กำลังมีความขัดแย้ง ทำให้เกาหลีใต้ไม่สามารถจัดส่งอาวุธแก่ยูเครนได้โดยตรง
เลขาธิการนาโตกล่าวถึงจีนว่า นาโตไม่ได้มองว่าจีนเป็นปรปักษ์ และสนับสนุนเรื่องการพูดคุยกันในประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่การควบคุมอาวุธไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พันธมิตรนาโตยังคงค้าขายกับจีน แต่บทเรียนที่เกิดขึ้นกับยุโรปเมื่อไม่นานมานี้เรื่องการพึ่งพาก๊าซรัสเซียมากเกินไปทำให้เรียนรู้ว่า ไม่ควรพึ่งพามหาอำนาจเผด็จการมากเกินไป นาโตตระหนักดีว่า จีนเป็นความท้าทายต่อค่านิยม ผลประโยชน์ และความมั่นคงของนาโต จากการที่จีนและผู้ปกครองในจีนไม่เชื่อเรื่องประชาธิปไตยและเสรีภาพในการแสดงออก นอกจากนี้จีนยังทุ่มลงทุนพัฒนาศักยภาพการทหารเคลื่อนที่ รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลที่อาจยิงถึงดินแดนทั้งหมดของนาโต.-สำนักข่าวไทย