เฉิงตู 28 ธ.ค. – โรงพยาบาลหลายแห่งในจีนกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวอย่างหนักเมื่อวันพุธ ในขณะที่จีนพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหัวซี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในนครเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ระบุว่า เจ้าหน้าที่หลายคนต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิดนับตั้งแต่ทางการจีนเริ่มประกาศผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. พนักงานขับรถพยาบาลที่ไม่เผยนามคนหนึ่งระบุว่า โรงพยาบาลหัวซีกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัวครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำงานนี้มาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่เภสัชกรรมของแผนกฉุกเฉินเผยว่า ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเกือบทั้งหมด ตอนนี้โรงพยาบาลกำลังขาดแคลนยาต้านเชื้อโควิด และทำได้เพียงแค่จ่ายยารักษาตามอาการ เช่น เจ็บคอ ให้แก่ผู้ป่วยเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน สื่อของทางการจีนรายงานอ้างคำพูดเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปักกิ่งเฉาหยางในกรุงปักกิ่งของจีนว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยและผู้ที่มีโรคประจำตัวจนทำให้มีอาการป่วยรุนแรง ทั้งยังระบุว่า ตัวเลขผู้ป่วยโควิดที่ต้องรักษาตัวที่แผนกดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มขึ้นสูงถึงวันละ 450-550 คน จากเดิมที่เพิ่มขึ้นวันละ 100 คนเท่านั้น ด้านทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดเพิ่มขึ้น 3 คนในวันอังคาร เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ที่มี 1 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าน้อยกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.1 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 31,500 คนนับถึงวันที่ 23 ธ.ค.-สำนักข่าวไทย