ปักกิ่ง 20 ต.ค. – กรุงปักกิ่งของจีนประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เข้มงวดการตรวจสอบประชาชน และใช้มาตรการล็อกดาวน์ในชุมชนบางแห่ง หลังพบยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น 4 เท่า ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา
กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีประชาชน 21 ล้านคน รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในชุมชน 18 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งหมด 197 คน ในรอบ 10 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 4 เท่า จาก 10 วันก่อนหน้านี้ที่มีเพียง 49 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของกรุงปักกิ่งได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงติดโควิดมากขึ้น และเข้มงวดการตรวจสอบประชาชนที่จะเดินทางเข้าไปในสถานที่แออัด เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ตและสถานที่ออกกำลังกาย ส่วนชุมชนที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจะต้องเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 3 วัน และอาจขยายเวลาล็อกดาวน์นานขึ้นในกรณีที่พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในชุมชน ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 8.49 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 27,500 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า แม้ตัวเลขยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ของจีนถือเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แต่กรุงปักกิ่งจำเป็นต้องปรับมาตรการควบคุมโรคโควิดให้เป็นไปตามนโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน โดยเฉพาะในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังเปิดการประชุมครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นทุก 5 ปีในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อเป็นสมัยที่ 3 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน.-สำนักข่าวไทย