นนทบุรี 16 ส.ค. – 5 ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าขึ้นราคาจาก 6 บาท เป็น 8 บาท/ซอง หากไม่ได้ก็จะขออีก ด้านอธิบดีกรมการค้าภายในขอพิจารณาเป็นรายๆ พร้อมย้ำตอนนี้ยังไม่ให้ขึ้นราคา หากฝ่าฝืนมีความผิด
ตัวแทนผู้ประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เข้ายืนหนังสือ ต่อนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อทวงถามความคืบหน้าการขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซองจาก 6 บาท เป็น 8 บาท หลังจากวานนี้ผู้ประกอบการ 5 ราย บ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด(มหาชน) บ.โชคชัยพิบูล จำกัด บ.โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด บ.วันไทย อุตสาหกรรมอาหาร จำกัด และ บ.นิสชินฟูดส์ (ไทยแลนด์) จำกัด แถลงและลงนามร่วมกัน และนำหนังสือมายื่นในวันนี้ โดยมีนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักอำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต“มาม่า” และนายวีระ นภาพฤกษ์ชาติ กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อไวไว เป็นตัวแทนเข้ายื่น
นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ เปิดเผยว่ การมาวันนี้เพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาการปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดซอง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้บริโภค และขาดแคลนสินค้า ยอมรับว่าบะหมี่กึ่งกึ่งสำเร็จรูปขายดีขึ้น แต่ยิ่งขายยิ่งขาดทุนเนื่องจากขณะนี้ต้นทุน เพิ่มสูงขึ้นแบบปรับฐาน ไม่ใช่ขึ้นแบบหวือหวา และไม่ใช่การขาดทุนกำไร หากไม่ได้รับอนุมัติ ก็พร้อมจะยื่นขอปรับราคาอีก อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการปรับขึ้นราคา จะยังคงผลิตจำหน่ายไม่ให้สินค้าขาดตลาด แต่อาจจะเพิ่มสัดส่วนขายต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบอยู่ได้
ด้านอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุเข้าใจในเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ยืนยันขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้ปรับขึ้นราคา ที่ผ่านมามีการหารือกับผู้ประกอบการบะหมี่กึงสำเร็จรูปไปแล้วมากกว่า 20 ครั้ง พร้อมย้ำการพิจารณาอนุญาตปรับราคาจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น จะพิจารณาเป็นรายๆ โดยอยู่บนหลักการ วิน-วิน โมเดล ที่ผู้ประกอบการต้องยังคงผลิตและจำหน่ายต่อไปได้ ผู้บริโภคได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายสั่งการไว้แล้ว ซึ่งขณะนี้กรมการค้าภายในก็อยู่ระหว่างพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยจะพิจารณาให้เร็วที่สุด แต่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเป็นเมื่อใด อย่างไรก็ตาม หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าจะถูกดำเนินคดีมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ.-สำนักข่าวไทย