ผงะ! พบศพชายหญิงถูกฝังคู่กันกลางป่าชุมชน จ.นครราชสีมา

นครราชสีมา 29 ก.ค. – ผงะ! ชาวบ้านพบศพนิรนามชาย-หญิงถูกฝังคู่กัน กลางป่าชุมชน ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตำรวจเร่งคลี่ปม คาดถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง


ช่วงเย็นวานนี้ (28 ก.ค.) ตำรวจ สภ.โชคชัย รับแจ้งจากพลเมืองดีพบศพฝังดินบริเวณป่าสาธารณะริมถนนเชื่อมต่อหมู่บ้านดอนไพล ม.7 ต.ท่าเยี่ยม และหมู่บ้านดอนไพล ม.1 ต.รุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบจุดดังกล่าวเป็นป่ารก ห่างจากถนนเชื่อมหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร ชาวบ้านกำลังมุงดูหลุมลึกประมาณ 1.50 เมตร ซึ่งมีบางส่วนของศพโผล่ขึ้นมา

ชาวบ้านที่พบศพคนแรกบอกว่า ตนเข้าป่ามาเก็บเห็ด ระหว่างนั้นเห็นรอยดินที่มีลักษณะถูกขุดฝังกลบอะไรบางอย่าง และมีกิ่งไม้ทับไว้ผิดสังเกต จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทราบ


เมื่อชาวบ้านช่วยกันตรวจสอบดูถึงกับสะดุ้ง เพราะพบศพอยู่ในหลุม เป็นหญิง-ชายถูกฝังคู่กัน มีการเทปูนทับ สภาพร่างเปลือยเปล่าทั้งคู่ เบื้องต้นร่างหญิงสาว อายุประมาณ 30-40 ปี สูง 155-160 เซนติเมตร รูปร่างผอม ผิวขาว ผมยาว มีรอยสักบริเวณสะโพกด้านหลังและข้อมือซ้าย และร่างผู้ชาย สูง 170 เซนติเมตร ผิวขาว ผมหยิก ฝังอยู่ใต้ร่างของหญิงสาว นอนคู่กันลักษณะผู้ชายนอนหงายหน้า และฝ่ายหญิงนอนคว่ำหน้าทับกัน สลับหัวและปลายเท้า เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน และไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครมาจากไหน ชาวบ้านแถวนั้นไม่มีใครรู้จัก และไม่มีการแจ้งบุคคลสูญหายในพื้นที่

นายเทพบัญชา ทรายกระโทก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านทุ่งอรุณ เล่าว่า ตอนแรกได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เข้าไปเก็บของป่า พบหลุมต้องสงสัย ตั้งแต่เที่ยงวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ลักษณะเป็นหลุมยุบตัวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงไม่ได้คิดอะไร และไม่ว่างในขณะนั้น พอถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ชาวบ้านมาบอกอีกว่าฝนตกดินยุบผิดปกติอีกแล้ว กระทั่งบ่าย 3 วันที่ 28 กรกฎาคม จึงระดมชาวบ้านไปช่วยกันขุดเพื่อพิสูจน์ แต่ยังไม่กล้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะกลัวว่าจะไม่เจออะไร พอขุดไปสักพักเจอแขนผู้หญิงโผล่ออกมา จึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ จากนั้นกู้ภัยมาช่วยกันขุดต่อ จึงเจอศพที่ 2 เป็นผู้ชาย ทั้งสองศพถูกโบกปูนอยู่ สภาพเปลือยกายทั้งคู่

ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 3 เร่งประสานชุดสืบสวนภูธร จ.นครราชสีมา และตำรวจในท้องที่ ระดมกำลังหาเบาะแส พยานหลักฐานแวดล้อม เพื่อเชื่อมโยงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆาตรกรรมจากที่อื่นแล้วนำศพมาฝังเพื่ออำพรางคดี คนร้ายมีมากกว่า 2 คน และทำเป็นขบวนการ ตอนนี้ยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัด อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนศพของทั้งคู่ ขณะนี้ตำรวจให้หน่วยกู้ภัยนำศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลโชคชัย เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และชันสูตรรูปพรรณสัณฐานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นใครมาจากไหน พร้อมกับเร่งสืบสวนหาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย