กระบี่ 8 มิ.ย.-ฮือฮา! หนุ่มชาวประมง จ.กระบี่ พบลูกแก้วประหลาด ในลูกทุเรียน เผยซื้อทุเรียนพื้นบ้าน เอามากินกันในครอบครัว ปรากฏว่าเคี้ยวไปโดนของแข็งจึงรีบคายอกมา เป็นลูกแก้ว ไม่เคยเห็นมาก่อน เชื่อเป็นของมีค่า พร้อมให้มีการพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ในพื้นที่ ม.6 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ว่า มีชาวประมง เจอลูกแก้วประหลาดอยู่ในลูกทุเรียน ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน จึงเดินทางไปพิสูจน์ ที่บ้านเลขที่ 149 ม.6 บ้านคลองกรวด ต.เขาทอง ไปถึงพบชาวบ้าน กำลังนั่งมุงดูวัตถุดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก โดยวัตถุดังกล่าวมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ ใส ๆ คล้ายลูกแก้ว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร เมื่อมองลอดผ่านลูกแก้วไปยังคนที่อยู่ตรงหน้า จะเห็นเป็นลักษณะกลับหัว ยิ่งสร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้าน บางคนเชื่อว่าเป็นมุกทุเรียน หรือเม็ดหยดน้ำค้าง ขณะที่บางคนไม่เชื่อจนกว่าจะมีการพิสูจน์
จากการสอบถามนายสมคิด อายุ 41 ปี เจ้าของวัตถุดังกล่าว เล่าว่า เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา เวลาตอนเย็น ตนเองกลับมาจากเฝ้ากระชังปลาให้นายจ้าง รู้สึกอยากจะกินลูกทุเรียน จึงได้ไปซื้อทุเรียนพันธุ์พื้นบ้านที่ร้านอาหารของนายจ้าง ซึ่งอยู่ใกล้กับที่จอดเรือของตน จากนั้นก็นำลูกทุเรียนมาแกะกินที่บ้าน มีแม่เลี้ยงและหลานชายนั่งกินด้วยกัน พอตนกัดพูแรกรู้สึกว่าฟันไปกระทบกับวัตุบางอย่างลักษณะเป็นเม็ดแข็ง ๆ จนทำให้ฟันบิ่น จึงรีบคายออกมาต่อหน้าแม่เลี้ยง ที่กำลังนั่งกินด้วยกัน พอคายออกมาปรากฏว่า เป็นลูกแก้วดังกล่าว อยู่ติดกับเม็ดทุเรียนที่ตนกินเข้าไป จึงตรวจสอบเปลือกทุเรียนก็ไม่พบร่องรอยทะลุแต่อย่างใด เปลือกทุเรียนก็สมบูรณ์ดี หากมีการยัดลูกแก้วเข้าไปในเนื้อทุเรียนคงจะมีรอยบ้าง เนื้อทุเรียนอาจจะมีรอยช้ำ แต่ก็ไม่เห็นมี จึงเชื่อว่าวัตุดังกล่าวออกมาจากทุเรียน และคงจะเป็นของมีค่า มีราคา หลังจากนี้ตนจะเอาไปฝากไว้กับญาติและพร้อมที่จะให้มีการพิสูจน์
ด้านนางนางจริยา อายุ 58 ปี แม่เลี้ยงของนายสมคิด เล่าว่า ตอนที่นายสมคิดคายเม็ดลูกแก้วออกมาพร้อมกับเม็ดทุเรียน ตนก็นั่งอยู่ด้วย รู้สึกแปลกใจมาก จึงไปสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงไม่มีใคร รู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ จึงอยากให้มีการพิสูจน์ เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนเปลือกทุเรียนหลังกินเสร็จก็ได้ทิ้งลงทะเลไปแล้ว เพราะตอนแรกคิดว่าคงไม่มีใครสนใจ
ขณะที่นางเขียว อายุ 66 ปี ป้าของนายสมคิด กล่าวว่า วัตถุดังกล่าวตนก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ว่าจะออกมาจากทุเรียนได้อย่างไร แต่ก็เชื่อว่า น่าจะเป็นของมีค่า ตนจะเก็บรักษาเอาไว้ให้หลานชายเพื่อจะทำให้เขามีชีวิตดีขึ้น หากเป็นไปได้อยากจะให้นำไปตรวจสอบกับคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องนี้เพื่อจะได้คลายความสงสัยต่อไป.-สำนักข่าวไทย