12 พ.ค. -ลูกศิษย์และพระพี่เลี้ยง พาหลวงปู่แสง ออกจากที่พักสงฆ์แล้ว ด้านคณะสงฆ์ยโสธร เผยไม่มีอำนาจตรวจสอบ เพราะไม่ใช่พระในสังกัด ขณะที่แพทย์ประจำ รพ.ยโสธร ยืนยัน “หลวงปู่แสง” มีภาวะหลงลืมจริง ไม่รู้ตัวในสิ่งที่ทำ
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นไปอย่างเงียบเหงา เหลือเพียงพระภิษุสงฆ์เพียงไม่กี่รูป และไม่สามารถให้ข้อมูลต่างๆ กับสื่อได้ พูดเพียงว่า “ไม่ทราบ ไม่รู้ๆ” เท่านั้น ขณะที่ตอนนี้หลวงปู่แสง ได้หายตัวออกจากที่พักสงฆ์ไปแล้ว พร้อมกับพระเลขา โดยไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน ไม่สามารถติดต่อใครได้
ขณะที่นายสิทธิลักษณ์ จิตอาคนารัตน์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ช่วงเย็นวานนี้ ตนพร้อมคณะสงฆ์อำเภอป่าติ้ว ได้เดินทางกลับเข้าไปยังที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม อีกรอบเพื่อร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและได้รับทราบว่าหลวงปู่แสง ญาณวโร ได้มีลูกศิษย์พาหนีออกจากที่พักสงฆ์ไปแล้ว พร้อมกับพระพี่เลี้ยง โดยแจ้งญาติโยมว่าจะพาหลวงปู่แสงไปทำการรักษาอาการโรคอัลไซเมอร์ แต่ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด และไม่สามารถที่ตะติดต่อได้ แต่จากการตรวจสอบทราบว่าหลวงแสง ญาณวโร ไม่ได้เป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในสังกัดของคณะสงฆ์จังหวัดยโสธร แต่สังกัดอยู่คณะสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม คณะปกครองสงฆ์ในจังหวัดยโสธร จึงไม่มีอำนาจในการพิจารณา ต้องรอให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะปกครองสงฆ์จังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้พิจารณา ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างการประสานงานของคณะสงฆ์ยโสธรกับทาง จ.มหาสารคาม กันเอง
ด้านนายสิทธา มูลหงส์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงประเด็นข้อร้องเรียน พระอุปัฏฐาก (พระผู้ดูแล) แจ้งว่า หลวงปู่เป็นโรคอัลไซเมอร์และมีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้ ยืนยันว่ามีหลักฐานว่าหลวงปู่แสง มีอาการอาพาธ สมองฝ่อ เป็นอัลไซเมอร์มาหลายปีแล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานประวัติการอาพาธและการรักษาจากแพทย์ประตัวตัวอยู่
และเรื่องนี้ยืนยันว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำงานเชิงรุก ตอนนี้มีการสั่งการให้ผู้ตรวจเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งที่ยโสธร และขอนแก่น มีการประชุมแก้ปัญหาทุกวัน ย้ำว่าไม่ได้หายไปไหน ทำงานต่อเนื่อง
แพทย์ยัน “หลวงปู่แสง” มีภาวะหลงลืมจริง ไม่รู้ตัวในสิ่งที่ทำ
ส่วนเรื่องที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าแท้จริงที่มีกระแสข่าวออกมาว่าหลวงปู่ป่วยด้วยอัลไซเมอร์จริงหรือไม่ ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jean Songpon Yuensuk หรือ นพ.ทรงพล ยืนสุข แพทย์ประจำโรงพยาบาลยโสธร ได้แชร์โพสต์เกี่ยวกับกรณีหลวงปู่แสง ก่อนจะระบุข้อความว่า “ท่านมีภาวะหลงลืมจริงครับ ผมได้เข้าไปให้การรักษาท่านประจำ ท่านจำใครไม่ได้เลย ไม่รู้ตัวในสิ่งที่ทำด้วยซ้ำ ลุกนั่ง-นอนเองยังไม่ได้เลย แค่ประคองธาตุขันธ์มาได้ขนาดนี้ก็เก่งมากๆ แล้วครับ”
โพสต์ดังกล่าว มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างเชื่อว่าหลวงปู่แสงมีภาวะหลงลืมจริง
โรคอัลไซเมอร์ เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะสมองเสื่อม และเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ความชุกของโรคจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุ พบความชุกร้อยละ 10-15 ในประชากรที่อายุมากกว่า 65 ปี และพบร้อยละ 20-30 ในประชากรที่อายุมากว่า 80 ปี สาเหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในสมองจนบางส่วนของสมองทำหน้าที่ลดลง เกิดการฝ่อ ทำให้กระทบกับการทำงานของสมองส่วนนั้น และแสดงอาการต่าง ๆ ออกมา เช่น หลงลืม ถามซ้ำ ๆ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของโรคอัลไซเมอร์ อาการของโรค ผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านความจำเป็นอาการหลัก ผู้ป่วยจะไม่สามารถจดจำ และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ จึงมักจะลืมว่าวางของไว้ที่ไหนทั้งที่พยายามจำ ถามซ้ำ ๆ พูดซ้ำ ๆ เป็นต้น
ส่วนคำแนะนำในการดูแล ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจยืนยันว่าเป็นอัลไซเมอร์จริงไหม และเป็นจากสาเหตุอื่นใด จากนั้นแพทย์ก็จะให้คำแนะนำในการดำรงชีวิตร่วมกัน ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การใช้สมุดจดบันทึก ให้เจ้าตัวได้ทราบว่าตนเองทำอะไร เวลาใดบ้าง เมื่อจำไม่ได้ก็กลับมาเปิดอ่าน จะทำให้ผู้ป่วยอยู่ได้โดยอาศัยบันทึกความทรงจำเหล่านี้ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วย เช่นการบันทึกวีดีโอเพื่อบันทึกกิจกรรมก็ช่วยได้มากเช่นกัน
แพทย์เตือน ฉี่เป็นของเสียไม่ใช่ยา ไม่ควรนำมาดื่ม
ส่วนพระที่ดื่มฉี่และอวดอ้างสรรพคุณต่างๆนานานั้น ตรวจสอบแล้วเป็นพระอยู่ที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว เบื้องต้นพระผู้ใหญ่ได้มีการว่ากล่าวตักเตือน พระรูปดังกล่าวไปแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตอนนี้ก็ไม่พบพระรูปดังกล่าวแล้ว
ขณะที่ นพ.ภาคิน ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในทางการแพทย์ปัจจุบัน ปัสสาวะถือว่าเป็นการขับของเสียออกจากร่างกาย และเมื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ เพาะเชื้อจะกี่ครั้งก็พบว่าไม่สะอาด เนื่องจากพบมีเชื้อแบคทีเรียและเชื้อชนิดอื่นปนเปื้อนมาด้วย การที่นำปัสสาวะมาดื่มโดยไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ก็เปรียบเสมือนการดื่มของเสีย ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อแนะนำทางการแพทย์ที่ให้ดื่มปัสสาวะเพื่อประโยชน์ และไม่ควรโฆษณาชวนเชื่อใดๆ
เรื่องหลวงปู่แสงได้มีคนดังออกมาแสดงความเห็นในกรณีอย่างมากมายหลากหลายความเห็นทั้งมองว่าเป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ต้องรับผิดชอบ ไม่ควรนำท่านมาหาผลประโยชน์ รวมถึงต่อว่าหมอปลาที่ออกมาแฉเรื่องนี้ว่าเป็นพวกคนไม่หิวข้าว แต่หิวแสง
“ทิดไพรวัลย์” ฟาดศิษย์ ปมคลิป “หลวงปู่แสง”
“ทิดไพรวัลย์” ได้ออกไลฟ์แสดงความเห็นเรื่องนี้ ระบุว่าหลวงปู่เป็นพระอายุมาก ไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ให้แพทย์มาตรวจเป็นโรคอัลไซเมอร์จริงหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม ส่วนเรื่องคลิป ทำไมพระลูกศิษย์หรือลูกศิษย์ฆราวาสถึงปล่อยให้หลวงปู่รับแขก รับศรัทธาญาติโยมเหมือนท่านไม่มีอาการป่วยอะไร
คำถามที่สอง เมื่อหลวงปู่เริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ กับสีกามีเมื่อไหร่ ถ้าไม่ใช่หนึ่งครั้ง ทำไมลูกศิษย์ถึงยังปล่อยให้หลวงปู่ทำแบบนั้น ทั้งที่ทำแบบไม่มีสติรู้ตัว โดยเฉพาะถ้าคุณอ้างว่า คุณเป็นสายพระวัดป่า เคร่งครัดมากเรื่องผู้หญิงนี่ไม่ได้เลย ต้องรู้ พระบ้านยังรู้เลย กรณีหลวงปู่คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คือลูกศิษย์ต้องออกมาเซฟคนที่ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบชี้แจงให้สังคมคลายข้อสงสัยคือลูกศิษย์ แต่สิ่งที่คุณทำไม่ใช่การเซฟ แต่คือการทำลาย
ทนายอนันต์ชัย เผยพร้อมช่วย หากลูกศิษย์จะฟ้องหมอปลา
ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เดือดอีกคน โพสต์เฟซบุ๊กว่า หลังติดตามข่าวที่มีกลุ่มบุคคลพานักข่าวไปบุกหาหลวงปู่แสง และมีการกล่าวหาท่านต่างๆ นานา โดยเฉพาะนักข่าวใช้ถ้อยคำผลุสวาท หัวเราะเยอะท่าน ทนายอนันต์ชัย ระบุในโพสต์ว่า
“หลวงปู่แสงท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นพระป่าสายพระกรรมฐาน ท่านเป็นโรคอัลไซล์เมอร์ พวก….ทำอะไรกับหลวงปู่ ผมรับไม่ได้จริงๆ หากศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่แสง จะดำเนินคดีกับพวก…นี้ ผมในฐานะเป็นผู้ปฎิบัติธรรมสายกรรมฐาน ผมยินดีเป็นทนายความให้ครับ”
หมอปลา ไลฟ์แจงไม่ได้หิวแสง ไม่ได้จัดฉาก
หลังกระแสของเหล่าบรรดาลูกศิษย์ตีกลับมาหาหมอปลา ว่ามีการจัดฉาก และหิวแสง อยากดัง ด้วยการมาใส่ร้ายหลวงปู่ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หมอปลาได้ไลฟ์ในเพจเฟซบุ๊กชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้มีผู้เสียหายร้องเรียนและส่งคลิปมา จึงไปพร้อม ผอ.สำนักพุทธ เพื่อถามว่าจากที่ผู้เสียหายร้องเรียนมามีข้อเท็จจริงขนาดไหน จากที่เห็นคลิปทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจัดฉากหรือไม่ ยืนยันไม่ได้จัดฉาก ถ้าเราจัดฉากจะมีผู้เสียหายร้องเรียนมาเรื่อยๆ ได้อย่างไร หากไม่เชื่อสามารถสอบถามสำนักพุทธได้เลย เพราะ ผอ.สำนักพุทธเข้าร่วมตรวจสอบด้วย แต่เมื่อมีคนบอกหมอปลาจัดฉาก ถ้าจัดฉากจะมีคนร้องเรียนมาเรื่อยๆ ได้อย่างไร. – สำนักข่าวไทย