“พีช” ยกมือไหว้คุกเข่าขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ต่อหน้าสื่อ

พีชไหว้ขอโทษ

ปทุมธานี 19 เม.ย.-“นายกเบี้ยว” พา “พีช” ลูกชาย ขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย ยกมือไหว้คุกเข่าต่อหน้าสื่อ ด้าน “กัน จอมพลัง” ดึงครอบครัวผู้เสียหายออกไม่รับคำขอโทษ พร้อมบอกแบบนี้เรียกมัดมือชก ก่อนพยายามถาม “พีช” ทำไมวันเกิดเหตุไม่เรียกรถพยาบาล “นายกเบี้ยว” ปัดตอบพร้อมดึงลูกขึ้นรถทันที

เวลา 15.40 น. “กัน จอมพลัง” พร้อมครอบครัวของผู้เสียหาย ได้เดินมาที่ สภ.ลำลูกกา เพื่อมาพบกับพนักงานสอบสวนและนายพีช โดย “กัน จอมพลัง” ระบุว่า วันนี้พาทางครอบครัวพร้อมกับพยานที่เห็นเหตุการณ์มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ถือเป็นการเปิดทางให้ฝั่ง “พีช” ที่พูดว่าอยากจะพบเจอเพื่อขอโทษ หรือพูดคุยกับทางฝั่งครอบครัวของผู้เสียหาย แต่จากที่ตนเองพูดคุยกับครอบครัวก็อยากให้พบเจอกันในที่แจ้งต่อหน้าสื่อ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่า “พีช” สำนึกผิดจริงหรือไม่ หรือถูกกดดันจากสังคมจึงออกมาขอโทษ เนื่องจากเมื่อวานนี้ “พีช” ได้พูดในรายการหนึ่งว่า หากลุงและป้าผู้เสียหายจอดรถ ก็จะไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น


“กัน จอมพลัง” กล่าวต่อว่า คดีในช่วงแรก ทางฝั่งตำรวจทางหลวงก็ได้สรุปแล้วว่าเป็นการประมาทร่วม ตนเองมองว่า หากมีความเอื้ออาทรกันบนท้องถนน เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น และจากคำกล่าวอ้างต่างๆ ของ “พีช” เมื่อเทียบกับคลิปและตามคำบอกเล่าของฝั่งครอบครัวผู้เสียหาย ตนมองว่าคนละเรื่อง

ในวันนี้จะนำข้อมูลต่างๆ ที่พยานนำมาให้ คือ เรื่องของความเร็ว ที่มีพยานบางคนเห็นว่าก่อนหน้านี้เจอกับรถของ “พีช” บนเส้นทางด่วนดังกล่าว พบว่ามีการขับเร็วถึง 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงอยากให้ทางตำรวจตรวจสอบว่าความเร็วที่ใช้ในเวลานั้นอยู่ที่เท่าไร หากความเร็วออกมาสูง การเบียดในลักษณะแบบนั้นจะสามารถทำให้ลุงกับป้าเสียชีวิตได้หรือไม่ อีกประเด็นคือให้สอบหมอที่รักษาลุง ว่าอาการกระดูกซี่โครงหัก 6 ซี่ สามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่ จะสามารถเพิ่มข้อกล่าวหาได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องที่ “พีช” มีการลงบันทึกประจำวันไว้ในช่วงวันเกิดเหตุที่แจ้งว่าลุงขับชนตัวเอง ส่วนนี้จะเป็นการลงข้อความเท็จในเอกสารหรือไม่


“กัน จอมพลัง” เปิดเผยอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะมา มีพี่ชายโทรมาหา ขอตนเองในบางเรื่อง ตนจึงขอกลับไปว่า ให้หยุดปากแจ๋ว และขอให้ “พีช” รู้สึกผิดจริงๆ และให้รับผิดชอบผู้เสียหายแบบเต็มที่ มองว่าจะเยียวยาในส่วนใดบ้าง เรื่องแบบนี้ไม่จำเป็นให้ใครมาบอก คนที่จะอาสารับใช้ประชาชนต้องคิดได้ และตามคำกล่าวอ้างของ “นายกเบี้ยว” ที่บอกว่า “พีช” ยังเด็ก อ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์ จึงอยากถามกลับอีกว่า หากยังอ่อนไหวและอ่อนประสบการณ์จะมารับใช้ประชาชนได้หรือ

“กัน จอมพลัง” ย้ำว่า ไม่กังวลว่า “พีช” จะเป็นลูกนักการเมือง หรือนามสกุลดัง หรือรวย อยากให้ทราบว่าคนจนก็มีแรงสู้ และต้องได้รับความยุติธรรม นอกจากนี้ที่ตำรวจได้ปล่อยตัว “พีช” โดยไม่ให้วางหลักทรัพย์ในการประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นเพราะ “พีช” มามอบตัว บรรทัดฐานตรงนี้เป็นแบบนี้กับทุกคนหรือไม่

ด้านลูกสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวานที่ “พีช” ขอโทษผ่านทางรายการ มองว่า “พีช” ถูกกดดันจากสังคมและสื่อ ซึ่งไม่รู้ว่ารู้สึกผิดจริงๆ หรือไม่ แต่จากเมื่อวานที่ดูไม่เห็นความจริงใจเท่าไร มองว่าที่ออกมาขอโทษจะนำไปประกอบในการลดทอนโทษของคดีหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถพูดคำว่าอภัยได้ เพราะพ่อแม่ตนเองยังอยู่โรงพยาบาล อยากเห็นความรับผิดชอบแบบชัดเจน รวมถึงอยากได้รับความปลอดภัยทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งตนเองและแม่ยังคงหวาดระแวงอยู่ นอนไม่หลับตั้งแต่วันเกิดเหตุ รู้สึกว่าครอบครัวตนเองเป็นเพียงคนธรรมดาตัวเล็กๆ ซึ่งตัวแม่เองก็ยังไม่พร้อมเจอเพราะยังคงกลัวอยู่


ตนเองคิดว่าหาก “กัน จอมพลัง” ไม่มาช่วย คงไม่ได้รับคำขอโทษ และเรื่องคงไม่ดำเนินไว ส่วนเรื่องการเมือง ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้ ตนเองอยากให้มาขอโทษกลางสื่อ เพื่อแสดงความจริงใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทาง “นายกเบี้ยว” และนายพีช ถือพวงมาลัย 2 พวง พร้อมยกมือไหว้ กัน จอมพลัง และถามถึงเรื่องที่กล่าวในรายการที่นายพีชพูด ว่า “หากลุงจอด เรื่องจะไม่เกิดขึ้น” ทางครอบครัวติดใจในเรื่องนี้ แต่ทาง “นายกเบี้ยว” ตอบว่า “เข้าใจ แต่เห็นใจผมบ้าง ผมเหนื่อยแล้วนะ” ก่อนที่ “กัน จอมพลัง” จะบอกว่า ”ก็เข้าใจฝั่งครอบครัวบ้าง“ ในจังหวะนั้นนายพีชก็ได้คุกเข่าลงต่อหน้าลูกสาวของผู้เสียหายเตรียมที่จะขอโทษ จากนั้นลูกสาวของผู้เสียหายก็ยื่นมือจะรับพวงมาลัย แต่ทางด้าน กัน จอมพลัง ได้ดึงตัวลูกสาวผู้เสียหายออก พร้อมกล่าวว่า ”แบบนี้มัดมือชกเกินไป“

จากนั้นนายพีช ได้พูดน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมก็ขอโทษพี่นุ๊ก พี่นิก และคุณลุงคุณป้า ผมไม่เจตนาให้เป็นอย่างนั้น” กัน จอมพลัง สวนกลับมาทันทีว่า “ร้องไห้แล้วหรอ” นายพีช จึงกล่าวต่อว่า ”และเรื่องค่าเสียหายทั้งหมดค่ารถ, ค่าพยาบาล ยินยอมที่จะดูแลให้ ซึ่งเรื่องที่ตนไม่ได้ดูแลตั้งแต่วันแรก ยอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาที่จะหนีไปไหน รู้สึกผิดที่ทำให้ลุงบาดเจ็บ หากมองย้อนกลับเป็นเป็นครอบครัวตนเอง ก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน มาวันนี้ก็ตั้งใจที่จะมาขอโทษแล้วก็ขอโอกาสสังคม ให้หยุดด่าตนเอง“

กัน จอมพลัง ถามกลับว่า “ทำไมวันเกิดเหตุถึงไม่เรียกรถพยาบาล” ด้านนายกเบี้ยวก็ประคองนายพีชลุกขึ้นพาเดินออกจากวงสัมภาษณ์และพากลับขึ้นรถ โดยระหว่างที่ขึ้นรถนั้น นายพีชร้องไห้ออกมา พร้อมบอกว่า “ผมรู้สึกผิดแล้ว ก็ขอโทษแล้วนะพี่ ขอโทษอย่างจริงใจ รู้สึกผิด และทุกอย่างโจมตีมาที่ผม ทั้งที่ผมผิดคนเดียว แต่มันตามมาที่พ่อแม่ผม ผมรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปแล้ว ผมรู้สึกไม่สบายใจ” จากนั้น พีชก็ได้ขึ้นรถไป นายกเบี้ยวเดินตามหลัง ก่อนจะพูดส่งท้ายว่า “พอแล้วนะ”

จากนั้น กัน จอมพลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นการเจรจาตรงไหน ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่รู้เลยว่าค่ารักษาพยาบาล ค่ารถ ใครจะเป็นคนจ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นยังไม่มีความชัดเจน มองว่าที่ทำแบบนี้ทำไปเพื่อประกอบในการลดโทษ หากขอโทษด้วยความจริงใจ ในเมื่อครอบครัวมีคำถามทำไมถึงไม่สามารถตอบคำถามให้ครอบครัวสบายใจได้ ไม่ใช่ว่าอยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง พอทำตามใจเสร็จแล้วก็ไป และวันนี้เป็นโอกาสของนายพีช ถ้าหากตัวเขาต้องการที่จะพูดคุยตกลงทางครอบครัวก็ตกลงที่จะพูดคุย และให้เจอกับทางคุณลุงคุณป้าได้อย่างสบายใจ “คำขอโทษใครๆ ก็พูดได้”

ในขณะที่ลูกสาว บอกว่า มีคำถามที่อยากจะถามคู่กรณี แต่เขาไม่ให้ถาม ครอบครัวติดใจว่า “นายพีช รู้สึกผิดจริงๆ ใช่ไหม ไม่ได้คิดว่าครอบครัวของตนเองเป็นคนผิดใช่ไหม” มองว่าการขอโทษครั้งนี้ “เหมือนอยากจะมาขอโทษให้เห็นว่าเขามาขอโทษแล้ว” และคิดว่าที่อีกฝ่ายร้องไห้ เนื่องจากคนเยอะและถูกกดดัน เป็นการขอโทษไปตามสภาพที่อยากจะขอโทษ และคิดว่าไม่มีความจริงใจ

ที่ผ่านมา “นายกเบี้ยว” ได้มีการมาขอโทษแทนลูกชายหลายครั้ง แต่คำว่าขอโทษควรจะทำให้ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเอาตะกร้ามาให้แล้วบอกว่าขอโทษเพียงเท่านั้น ที่ผ่านมามีเพียงแค่คำขอโทษ แต่ไม่มีการพูดคุยในเรื่องของการเยียวยาครอบครัว ส่วน “นายกเบี้ยว” มาคอยอยู่กับลูกตลอดเวลา มองว่าพ่อเขาก็รักลูกของเขา เหมือนที่เราก็รักพ่อกับแม่ของเรา เขาแสดงความชัดเจนในการเป็นพ่อที่รักลูก

ทั้งนี้ ที่หลายคนตั้งคำถามว่า จะสามารถทำหน้าที่ดูแลประชาชนต่อไปได้หรือไม่นั้น ในเรื่องของการเมือง ตนขอไม่ตอบ ตนตอบในฐานะของลูกสาวผู้เสียหายเท่านั้น ยืนยันว่าคุณลุงกับคุณป้ายังไม่อยากเจอในนายพีช เนื่องจากยังติดตากับภาพวันเกิดเหตุ ยังไม่สะดวกใจ รวมถึงยังมีความกังวล.-420.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ลั่นพ่อป่วยจริง แจงสังคมได้

ทำเนียบ 13 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ลั่นแจงสังคมได้ พ่อป่วยจริง ใครจะคิดอย่างไร ห้ามไม่ได้ ชี้มติแพทยสภาว่าไปตามกระบวนการ เผย “ทักษิณ” เตรียมไปศาล 13 มิ.ย.นี้ ย้ำเหตุเกิดก่อนตัวเองนั่งเก้าอี้นายกฯ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นการล้อมกรอบพรรคเพื่อไทย และมองกันว่าเป็นการแบ่งชนชั้นว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติว่าเป็นอย่างไร และยังไม่มีแพทยสภาคนใด ที่ออกมาพูดว่านายทักษิณ ป่วยจริงหรือไม่จริง ยังไม่ได้มีข้อสรุปตรงนี้และทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จะแปลว่าอย่างไรก็ไม่ทราบจริงๆ ส่วนจะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย เมื่อถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา จะมีผลอะไรตามมากับนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่าไม่มีและคุณพ่อเตรียมที่จะชี้แจงแค่นั้น เป็นการชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เมื่อถามย้ำว่าประเด็นนี้สามารถแจงสังคมได้ใช่หรือไม่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า แจงได้ และพูดมาตลอดว่า นายทักษิณอายุมากแล้ว และเคยเป็นโควิดตั้งแต่ ก่อนกลับประเทศไทยตอนอายุประมาณ 72 ปี ตนจำได้เพราะไม่สบายหนัก และมีประวัติเรื่องนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่การรักษาที่เมืองนอก และเกี่ยวเนื่องกันมา […]

เพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ดับสนิทแล้ว

กทม. 13 พ.ค. – เหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ซอยฉลองกรุง 55 ไฟดับแล้วทุกจุด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสารเคมี เตรียมปิดศูนย์บัญชาการวันนี้ แต่เปิดศูนย์พักพิงให้บริการประชาชนต่อเนื่อง กรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เกิดขึ้นตั้งแต่ 16.00 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม กระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วง 01.00 น. วันที่ 13 พฤษภาคม เกิดมีไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้งบางจุด เนื่องจากอุณหภูมิพลาสติกที่สูงสะสมประกอบกับลมแรง แต่เป็นเพียงหย่อมเล็กๆ และไม่มีการลามไปยังจุดอื่นๆ เจ้าหน้ายังคงคอยควบคุมอุณหภูมิเพื่อป้องกันการลุกไหม้ ประกอบกับฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน จนสามารถควบคุมเพลิงได้ในเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้ พบว่ายังคงมีกลุ่มควันลอยออกมาจากตัวอาคารที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ และยังคงมีกลิ่นสารเคมีลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ วันนี้ นางเกศี จันทราประภาวัฒน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สำนักงานเขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ด้วย ด้าน นายธราพงษ์ เพ็ชร์คง ผู้อำนวยการเขตลาดกระบัง เปิดเผยว่า สถานการณ์ล่าสุด ควบคุมเพลิงได้สนิททั้งหมดในช่วงเที่ยงของวันนี้ […]

เตรียมฝากขัง “สจ.กอล์ฟ” พรุ่งนี้ อาจโดนข้อหาซ่องโจรเพิ่ม

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจยังไม่นำตัว “สจ.กอล์ฟ” กับลูกน้องไปฝากขังผัดแรก ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม อาจแจ้งข้อหาซ่องโจรเพิ่มด้วย มั่นใจดิ้นไม่หลุด จากเหตุการณ์ นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ. เขต7 จ.สงขลา ลูกชาย สส.สงขลา ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจตชด. ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ขณะไปลงคะแนน ก่อนถูกออกหมายจับ และเข้ามอบตัวตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ขณะที่ลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้ว ซึ่งทั้ง7 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังสภ.เมืองสงขลา เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล จ.สงขลา พรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีการนำตัวผู้ต้องหาบางคนออกมาสอบสวนเพิ่มเติม และอาจแจ้งข้อหาเพิ่ม อาทิ ซ่องโจร เนื่องจากเป็นการรวมตัวเกิน 5 คนเพื่อกระทำความผิด อย่างไรก็ตาม คดีนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานหนาแน่นทั้งพยานบุคคล ภาพจากกล้องวงจรปิด หลักฐานในโทรศัพท์มือถือของสจ.กอล์ฟ […]

กทม.ทำบุญให้ผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากตึก สตง. ถล่ม

กทม. 13 พ.ค.-พิธีตักบาตรพระสงฆ์และสวดพระพุทธมนต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิตจากอาคาร สตง. ถล่ม พบมี ผู้ว่าฯ สตง.เข้าร่วมพิธี 13 พ.ค.68 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณชั้น 3 ภายในพื้นที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 109 รูป และพิธีสวดพระพุทธมนต์ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้สูญหายที่เสียชีวิต จากอาคาร สตง. ถล่ม โดยมี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เป็นประธาน พร้อมด้วย รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม., นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. รวมถึงอาสาหน่วยกู้ภัยและผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือตลอดทั้ง 45 วันของปฏิบัติการ โดยพบว่ามี นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมพิธีด้วย จากนั้นทีมงานที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ทั้งหน่วยกู้ภัย รวมถึงทีมจากศูนย์บัญชาการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ทีมสุนัขกู้ภัย […]