สธ.ชี้ยังไม่มีจังหวัดใดพร้อมเข้าเกณฑ์นำร่อง ‘โรคประจำถิ่น’

สำนักข่าวไทย 27 เม.ย.- สธ.ชี้ยังไม่มีจังหวัดไหนพร้อมเข้าเกณฑ์นำร่องสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เพราะเงื่อนไข ติดเชื้อโควิดทรงตัว ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเกิน 60% ย้ำคาดทำแซนด์บ็อกซ์จังหวัดนำร่องสู่การเป็นโรคประจำถิ่นได้ ราวกลางเดือน พ.ค. เปิดทุกกิจกรรม ไม่ใส่หน้ากาก แต่ต้องมีแผนรับมือ มีหน่วยตรวจสอบ ประชาชนช่วยจับตาถึงจะไปรอด


นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นของโควิด-19 ว่า ขณะนี้ยังไม่มีจังหวัดใดสามารถใกล้เข้าสู่การกลายเป็นโรคประจำถิ่นแม้แต่จังหวัดเดียว โดยเงื่อนไขสำคัญของการเป็นโรคประจำถิ่น ต้องประกอบไปด้วย

  1. พื้นที่นั้นสถานการณ์การติดเชื้อต้องทรงตัว ไม่ได้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
  2. พื้นที่นั้นต้องมีการรับวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็ม 3 เกิน 60% ของจำนวนประชากร และในส่วนของผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องรับวัคซีนเข็ม 1 เกิน 80% และเข็มกระตุ้นเกิน 60%

ทั้งนี้หากทุกจังหวัดผ่านเงื่อนไขนี้ ก็จะมาเข้าสู่กระบวนการที่ทาง ศบค.ประกาศไปแล้ว คือ ให้ทุกจังหวัดทำแผน จากนั้นปฏิบัติตามแผนเพื่อพร้อมเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ทำในลักษณะของแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งคาดว่าจะมีการนำเสนอต่อ ศปก.สธ. และเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ต่อไป หรือ ราวกลางเดือน พ.ค. น่าจะมีการทดลองทำตามแผนการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นในแต่ละจังหวัด


นพ.จักรรัฐ กล่าวว่า สำหรับแผนสำคัญ คือ ต้องใช้ได้จริง เพราะต้องเปิดกิจกรรม กิจการต่างๆ ตามปกติ ไม่มีการสวมหน้ากากอนามัย ประกอบด้วย 1.ให้ผู้ประกอบการจัดทำแผนรับมือกับสถานการณ์โรคที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องของการกลายพันธุ์ เพื่อรับมือกับสถานการณ์จริง 2.มีหน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบที่ชัดเจน เพื่อติดตามกำกับผู้ประกอบการอีกที เช่นการปิดเปิดสถานประกอบการ ผับบาร์ ไม่ใช่เปิดเกินเวลา และ 3.ประชาชนต้องร่วมสังเกตการณ์ ติดตามกับมาตรการต่างๆ และแจ้งเบาะแส หากพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามแผน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้จะมีการตรวจสอบกันเอง เพื่อให้การทดลองเปิดกิจกรรมกิจการต่างๆ มีความรัดกุม พร้อมการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 ก.ค.65 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น