กทม. 15 เม.ย. – คดีนักการเมืองถูกกล่าวหาลวนลามนักศึกษา ทนายษิทราให้ข้อมูลว่าเคสนี้เท่าที่ทราบมีผู้เสียหายแล้วประมาณ 20 คน พร้อมกับเปิดภาพห้องหนึ่งผ่านเพจเฟซบุ๊ก ระบุเป็นห้องที่นักการเมืองรายนี้ใช้ก่อเหตุกับหญิงสาวหลายราย
ภาพที่เห็นอยู่นี้เป็นภาพที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความว่า “นี่เป็นห้องที่รองหัวหน้าพรรค ที่มักหลอกผู้หญิงว่าเป็นสำนักงาน เหยื่อคนไหนหลงเชื่อยอมขึ้นมาบนห้อง รองหัวหน้าพรรคก็จะล็อกประตู ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน แล้วก็มักจะขู่เหยื่อว่าหากแจ้งความ ครอบครัวเหยื่อจะเดือดร้อน เพราะพ่อตัวเองนั้นใหญ่มาก บางคนต้องยอมให้ข่มเหงเป็นปีๆ บางคนเป็นบาดแผลในใจถึงกับป่วยเป็นโรคซึมเศร้า บางคนถึงกับต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
วันนี้พวกเราคนไทย ต้องขอบคุณและส่งกำลังใจให้เหยื่อทุกคนนะครับ ที่กล้าออกมาเปิดเผยข้อมูลด้วยความกล้าหาญ น้องๆ เป็นผู้ถูกกระทำโดยไม่เต็มใจ ซึ่งสิ่งที่ทุกคนทำ ทำให้อีกหลายคนรู้สันดาน #รองหัวหน้าพรรคโรคจิต ว่าต่อหน้าสื่อเป็นคนดี ดูน่าเชื่อถือ แต่ลับหลังกลับมีพฤติกรรมตรงกันข้ามขนาดไหน จะได้ไม่มีคนตกเป็นเหยื่อมันอีก ขอขอบคุณทุกคนด้วยใจครับ”
และนอกจากโพสต์ก่อนหน้านี้ ทนายษิทรา ยังโพสต์ข้อความถามถึงตำรวจว่า “ตำรวจทำอะไรกันอยู่ครับ ผู้เสียหายแจ้งความตั้งแต่วันที่ 12 เมษา สอบทั้งผู้เสียหาย แม่ผู้เสียหาย และพยาน แถมเก็บกล้องวงจรปิดหมดแล้ว ตอนนี้เหยื่อก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าผู้ต้องหาหนีออกนอกประเทศไปก่อนจะทำยังไง อย่าให้สังคมติฉินนินทานะครับว่า ไม่กล้าออกหมายจับไฮโซ!!”
รอง ผบช.น.ลั่นพร้อมสอบสวนทุกคดี หากมีคนแจ้งความ
ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานกฎหมายและคดี ที่มาประชุมติดความคืบหน้าคดี รองหัวหน้าพรรคการเมืองถูกหญิงสาวอายุ 18 ปี กล่าวหาและแจ้งความดำเนินคดีฐาน “กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล” ว่าคดีนี้หากพบการกระทำผิดจริง ถือว่ามีโทษหนักเกินกว่า 3 ปี โดยตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้มีพยานบุคคลและวัตถุพยาน เช่นกรณีแท็กซี่ที่รับผู้เสียหายอายุ 18 ปีนั้น ถือเป็นพยานแวดล้อมมีประโยชน์ต่อรูปคดี อยากให้ทั้งผู้เสียหายและผู้ต้องหาเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ส่วนประเด็นที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในบางประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่ม นอกจากนี้กรณีผู้เสียหายอื่นเข้ามาแจ้งความเพิ่ม ตำรวจได้ดำเนินการรับเรื่องไว้แล้ว ย้ำว่าแม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นนานมากแล้ว แต่หากยังอยู่ในอายุความทุกคนสามารถมาร้องทุกข์กล่าวโทษได้ แต่ต้องคุยตามข้อเท็จจริงว่าต้องใช้เวลาในการพยายามค้นหาหลักฐานที่อาจสูญหายตามกาลเวลา ซึ่งล่าสุดได้ข้อมูลมาว่ามีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 4 คน โดย 3 คนอยู่ในพื้นที่ สน.ลุมพินี และอีก 1 คนอยู่ในพื้นที่เมืองเพชรบุรี
สำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าวันนี้มีผู้เสียหายในคดีนี้มาแจ้งความเพิ่มอีก 1 คน บอกว่าถูกลวนลามและคุมคามทางเพศลักษณะเดียวกับหญิงอายุ 18 ปี พร้อมย้ำว่าคดีนี้ทำตามขั้นตอน ไม่ได้ล่าช้า และไม่หนักใจที่เป็นกระแสถูกจับตามองจากสังคม. – สำนักข่าวไทย