นิวยอร์ก 10 มี.ค.- วาณิชธนกิจใหญ่เตือนว่า การที่รัสเซียรุกรานยูเครนและชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเผชิญภาวะ “ออยล์ ช็อก” หรือราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากจนกระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ด้านผู้นำยูเครนช่วยให้ราคาน้ำมันโลกลดลงหลังจากเผยว่าพร้อมประนีประนอมกับรัสเซีย
นักยุทธศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ แจ้งลูกค้าว่า ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ความขัดแย้งนี้และภาวะขาดแคลนน้ำมันจะแก้ไขได้อย่างไร เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำเนียบขาวสหรัฐเพิ่งประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันรัสเซียเมื่อวันอังคารตามเวลาสหรัฐ ขณะที่สหราชอาณาจักรจะทยอยยกเลิกนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ หากชาติตะวันตกอื่น ๆ ดำเนินรอยตาม ราคาน้ำมันดิบโลกอาจแตะบาร์เรลละ 240 ดอลลาร์สหรัฐ ในฤดูร้อนนี้ เพราะน้ำมันรัสเซียจะหายไปจากตลาดโลกวันละ 4.3 ล้านบาร์เรล และไม่สามารถหาทดแทนจากแหล่งอื่นได้อย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญภาวะ “ออยล์ ช็อก” ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
โกลด์แมน แซคส์คาดว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนอาจทำให้น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่รัสเซียส่งออกทางทะเลหายไปวันละ 3 ล้านบาร์เรล หากสถานการณ์ยืดเยื้อ โลกจะประสบภาวะพลังงานสะดุดในรอบ 1 เดือนร้ายแรงเป็นอันดับ 5 รองจากเหตุพลังงานสะดุดเพราะการคว่ำบาตรน้ำมันอาหรับปี 2516 การปฏิวัติอิสลามอิหร่านปี 2521 สงครามอิรัก-อิหร่านปี 2523 และสงครามอิรัก-คูเวตปี 2533 ตลาดน้ำมันโลกจะไม่มีสิ่งรองรับผลกระทบ แม้ว่าหลายประเทศจะปล่อยน้ำมันสำรองฉุกเฉิน และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิต โลกจะถูกบีบให้ลดการใช้น้ำมัน ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบโลกที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี ได้ปรับตัวลดลงเมื่อวันพุธตามเวลาสหรัฐ น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสลดลงร้อยละ 15 ไปแตะบาร์เรลละ 107.23 ดอลลาร์สหรัฐ น้ำมันดิบเบรนต์ลดลงร้อยละ 12 ไปแตะบาร์เรลละ 109.76 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บิลด์ของเยอรมนีว่า เป้าหมายในการเจรจาทุกรอบของยูเครนคือ การยุติสงครามกับรัสเซีย เขาพร้อมประนีประนอม แต่ต้องไม่ใช่การทรยศต่อประเทศชาติ และอีกฝ่ายต้องพร้อมประนีประนอมด้วย เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อโดยตรงในระดับประธานาธิบดี การยุติสงครามจะเกิดขึ้นได้หลังจากมีการเจรจาระดับนี้เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย