ยะลา 9 มี.ค. – อ.เบตง จ.ยะลา ฝนตกนานกว่า 5 ชม. น้ำล้นคลองไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยนำผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยง ออกจากบ้านโดยเร็ว
เกิดฝนตกหนักนานติดต่อกันหลายชั่วโมง ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา จนทำให้น้ำในคลองกุนุงจนอง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านริมคลองหลายหลัง มีผู้ติดอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ต้องฝ่ากระแสน้ำที่ไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยใช้เชือกผูกติดกับต้นไม้แล้วจับเชือกเดินข้ามไป เพื่อเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งมีทั้งผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยง ออกมาจากบ้าน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาค่ำมืด ยากต่อการมองเห็น เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายก็สามารถช่วยเหลือออกมาได้สำเร็จ
ส่วนที่บริเวณ ถ.จันทโรทัย ซึ่งอยู่ข้างตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมคลอง ทางสมาชิกสภาเทศบาลฯ พร้อมหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้นำรถน้ำเข้าช่วยชาวบ้านล้างคราบดินโคลนที่มากับน้ำ พร้อมเร่งสำรวจจำนวนบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองเบตง
ขณะที่ จ.นครราชสีมา พายุฤดูร้อนพัดถล่ม ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายประมาณ 20 หลังคาเรือน โดยเฉพาะบ้านของนางนวลจรรยา เหลือสืบชาติ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้น 2 ของบ้านถูกลมพายุพัดหอบเอาโครงหลังคาสังกะสีปลิวหายไปทั้งแถบ
นางนวลจรรยา เล่าว่า เกิดลมพายุพัดมาจากทางทิศตะวันออกของบ้าน และโหมเข้าใส่ตัวบ้านอย่างจัง เป็นเวลาเกือบ 10 นาที โดยฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมพายุพัดกระโชกแรง หอบเอาโครงหลังคาไม้และสังกะสีปลิวหายไปทั้งหลัง ลอยไปไกลกว่า 30 เมตร ขณะเกิดเหตุมีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 3 คน ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ยังคงอยู่ในอาการตื่นตกใจ โดยเฉพาะคุณแม่อายุ 74 ปี ต้องย้ายไปอยู่บ้านพี่สาว ส่วนตนเองและครอบครัวที่เหลืออีก 3 ชีวิต ต้องอาศัยอยู่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านที่ไม่มีหลังคา โดยหวังว่าจะไม่เกิดฝนและลมพายุมาซ้ำอีก เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน
ขณะที่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประสานความช่วยเหลือมาแล้ว และยืนยันว่าจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด. – สำนักข่าวไทย