กทม. 22 ก.พ.-สปสช.-รพ.ศูนย์อุดรธานี หารือการปรับระบบยืนยันตัวตนของผู้ป่วย เพื่อให้การเบิกจ่ายรวดเร็วขึ้นตอบรับการดูแลผู้ป่วย Home isolation
ในการประชุมหารือเพื่อรับฟังความเห็นผู้ให้บริการของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีต่อการบริหารจัดการกองทุนระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเข้าประชุมออนไลน์ได้รับฟังปัญหาจากการใช้ระบบยืนยันตัวตน หรือ Authen Code ที่ใช้นำร่องใน สปสช.เขต 8 จากการนำเสนอของ นพ.สุรพงศ์ แสนโภชน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ว่า ระบบยืนยันตัวตน หรือ authen code ยังมีข้อจำกัดด้านคุณภาพของข้อมูลหรือความถูกต้อง ทำให้เกิดปัญหาข้อมูลถูกตีกลับ สปสช. เขต 8 ได้พยายามพัฒนาระบบไอที เพื่อให้ส่งข้อมูลไปเคลมยังกองทุนต้นสังกัดได้ทันที แต่ทำได้ในระดับปานกลาง ยังไม่สมบูรณ์ เหมือนระบบเดิมที่ใช้เอกสาร
นพ.จเด็จ ได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ตามกฎระเบียบเดิม คือ อนุโลมให้มีการยืนยันย้อนหลังได้ภาย ภายใน 5 วัน หากเกินต้องทำหนังสือรับรองจากพื้นที่ที่ทำการรักษา
ขณะที่ระบบดูแลผู้ป่วย HI ของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีตอนนี้มีผู้ป่วยสะสมประมาณ 4,000ราย ต้องต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการจ่ายเงินสำรองให้ รพ.สต.ไปก่อน โดยเฉพาะค่าอาหาร
ส่วนกรณีที่มีคนไข้โควิด-19 สีเขียวจำนวนมาก รพ.เสนอแนะให้ปรับการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาสมุนไพรไทยหรือรักษายาตามอาการจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก สำหรับระบบ “R8 anywhere “หรือการเบิกจ่ายด้วยการเชื่อมฐานข้อมูลผู้ป่วย ของทุกหน่วย บริการใน สปสช.เขต 8 ไปที่ สปสช. โดยตรง ได้มีความสมบูรณ์พร้อมเกือบ 100% แล้ว ในอนาคตจะได้นำเป็นตัวอย่างให้เขตอื่น ๆ ต่อไป.-สำนักข่าวไทย