นายกฯ นำประชุม ครม. จับตาหารือสถานการณ์ราคาน้ำมัน

กทม. 8 ก.พ.-นายกฯ นำประชุม ครม. เต็มคณะนัดแรก หลังโอไมครอนระบาด แต่ปรากฏว่า รัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ลาทั้งหมด คัดค้านมหาดไทยเสนอวาระพิจารณาขยายสัญญาสัมปทานสายสีเขียว จับตาที่ประชุมหารือสถานการณ์ราคาน้ำมัน

รัฐมนตรีในสังกัดพรรคภูมิใจไทย จำนวน 7 คน ซึ่งประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข, นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายทรงศักดิ์ ทรงศรี รมช.มหาดไทย ,นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ได้ยื่นหนังสือขอลาการประชุม ครม. เนื่องจากติดภาระกิจ และแสดงออกถึงความเห็นไม่เห็นด้วย กรณีกระทรวงมหาดไทย เสนอวาระเพื่อพิจารณา ขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริษัทในเครือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี จากเดิมที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปเป็นปี 2602 แลกกับเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย ให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ ประกอบกับมองว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ดำเนินการให้ป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และหลักธรรมาภิบาล หากมีการอนุมัติวาระดังกล่าวจะส่งผลทางด้านกฎหมายในอนาคตได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทาง กระทรวงคมนาคม ได้แสดงความเห็นคัดค้านต่อการขยายสัญญาสัมปทานมาโดยตลอด


นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงว่า นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม ได้ยื่นลาการประชุมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เหตุผลว่าเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศโดยอยู่ระหว่างกลางกักตัว ขณะที่นางมนัญญา ส่งใบลา ตั้งแต่วานนี้ และระบุว่าอยู่ระหว่างลงพื้นที่อุทัยธานี และไม่ทราบเหตุผลในการลา

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากไม่นำเรื่องเข้าพิจารณา ก็จะเข้าข่ายความผิดมาตรา 157 แต่หากนำเข้า ครม.ก็อาจจะยังไม่มีการตกลงใจอะไร


พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี พรรค พปชร. ตั้งเป้า 150 เสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า จะทำให้ได้ ซึ่งตนจะอยู่กับพรรคไม่ไปไหน และพรรคยังชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมานั่งที่พรรค เพราะอย่างไรก็คือน้องผม อย่างไรก็อยู่กับตนเอง อยู่ด้วยกันตลอด อยู่ด้วยกันมา 50 ปี ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ ก็น้อง ไม่มีทางจะแย่งตำแหน่งน้องแน่นอน ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ก็จะยังคงสนับสนุนรัฐบาล พูดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

อย่างไรก็ตามการประชุม ครม. วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มคณะและประชุมที่ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ว่างเว้นจากการประชุมเต็มคณะไประยะหนึ่ง เนื่องจากการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด -19 สายพันธุ์โอไมครอน ภายในประเทศนอกจากนี้ที่ประชุมจะมีการหารือถึงสถานการณ์ราคาน้ำมัน ซึ่งน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการชุมนุมประท้วงขับไล่ รมว.พลังงาน และนายกฯ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย