รัฐสภา 4 ก.พ.-สภาป่วน! ล่มอีกเป็นครั้งที่ 16 “ฝ่ายค้าน” ขอนับองค์ประชุม-เตือนสมาชิกอย่ากดบัตรแทนกัน ขู่มีหลักฐาน “ชวน” บอกขออย่ายอมแพ้ ยื้อเวลาให้สุด ขณะถูก “พิเชษฐ์” ลูบคม ซัดอย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น เจอสวนกลับ ทำอะไรให้ดูตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัยพิจารณาเสร็จแล้ว
ทั้งนี้ การอภิปรายดังกล่าว มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย, นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ทักท้วงและไม่เห็นด้วยที่จะส่งรายงานให้กับรัฐบาล ทำให้ภายหลังจากที่ประชุมอภิปรายแล้วเสร็จต้องลงมติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการลงมติ นายพิเชษฐ์ แจ้งกับที่ประชุมว่า “ขออย่ากดบัตรแทนกัน ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้มีการบันทึกทางโทรศัพท์แล้ว”
นายชวน ได้กล่าวขึ้นว่า “ดีแล้วที่เตือนกัน และขออย่าทำเพราะมีผลกระทบทางกฎหมายและสถานภาพ อย่าทำแทน ของใครของท่านนั้น”
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ใช้เวลารอการแสดงตนเป็นองค์ประชุมกกว่า 5 นาที ทำให้นายพิเชษฐ์ กล่าวขึ้นว่าคงไม่มีใครมาแสดงตนแล้ว ยกเว้นจะแสดงตนแทนกัน และร้องขอให้พักการประชุม ทำให้นายชวน กล่าวว่า อย่าให้ร้ายกัน หากใครประพฤติแบบนั้นขอให้ดำเนินการ อย่างไรก็ดีตนจะรอองค์ประชุม เพราะเห็นใจคนทำงาน อีกทั้งคนทำงานมีส่วนรักษาภาพของสภาไว้ โดยมีบันทึกไว้ ซึ่งคู่แข่งเอาไปใช้ได้เมื่อถึงเวลา
จากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้เสนอให้ปิดการแสดงตนเพราะใช้เวลานานกว่า 20 นาทีแล้ว แต่นายชวน กล่าวว่า แม้จะช้าหน่อย แต่ตัวเลขขึ้น ถ้ามีชื่อมาประชุมแต่ไม่กดบัตร เขาจะเสื่อมเสีย ดังนั้นต้องให้โอกาส
อย่างไรก็ตาม เมื่อที่ประชุมใช้เวลารอเกือบ 20 นาที ก็มี ส.ส.ขอให้พักการประชุม 30 นาที ซึ่งนายชวนมีทีท่าว่าจะเห็นด้วย และเตรียมจะขอพัก 15 นาที แต่นายจิรายุ ทักท้วงว่า การพักประชุมดังกล่าวไม่ถูกต้อง ทำผิดข้อบังคับ เพราะไม่มีประเด็นที่ต้องปรึกษาหารือ ขณะนี้องค์ประชุมไม่ครบ 200 คน หากสภาล่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกจะยุบสภาหรือเปล่า ทำให้นายชวน ตัดสินใจว่า ไม่พักการประชุม เพราะเกรงว่าพักไปแล้ว ส.ส.จะหายไป
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่าขณะนี้องค์ประชุมมีเพียง 190 กว่า ขาดอีก 30 – 40 คน ดังนั้นขอยอมรับความจริงและปิดประชุม องค์ไม่ครบสภาล่ม
ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือว่าต้องยอมรับความจริง สภาล่ม ต้องล่ม อย่าถ่วงเวลา นายกฯ จะยุบสภา
นายชวน ชี้แจงกลับว่า ไม่ได้ถ่วง นี่เป็นผลงานของพวกเรา หากมีโอกาสให้งานของพวกเราผ่านไปได้ก็จะเป็นประโยชน์ ส่วนรายงานที่จะเข้าต่อไป อย่าคิดว่าถ่วง รอพวกเรา ให้มีโอกาส ไม่ครบไม่รอ ใช้ความพยายาม อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆ เพราะประโยชน์ประชาชนสำคัญกว่า ทำให้มีเสียงหัวเราะกลางที่ประชุมขึ้นทันที และมีเสียงแซวนายชวนว่า ขออย่ายอมแพ้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชวน ได้ใช้เวลารอองค์ประชุม 30 นาที จากนั้น นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย เสนอว่า เมื่อฝ่ายค้านเล่นสกปรก ก็ขอให้นับองค์ประชุม
ทำให้ฝ่ายค้านประท้วง พร้อมให้ถอนคำพูด ก่อนถูกนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ตอบโต้ว่า เป็น ส.ส.ขายตัว ทั้งนี้ นายชวน ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เตรียมตัวนับองค์ประชุมขานชื่อ แต่นายจิรายุ เสนอญัตติให้นับคะแนนด้วยการกดบัตร ซึ่งนายชวนได้วินิจฉัยให้แสดงตนตามที่นายวิรัช เสนอ แต่นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นประท้วงคัดค้าน ระบุว่า วันนี้พวกเรากำหนดจะประชุมถึงเวลาประมาณ 17.00 น. หากนับองค์ประชุมแบบตามที่นายวิรัชเสนอ จะทำให้เสียเวลา กว่าจะเสร็จก็เวลา 17.30 น. ไม่ต้องประชุมต่ออยู่ดี ดังนั้น ถ้าเดิมเกมการเมืองเช่นนี้ฝ่ายค้านไม่ยุ่งด้วย และขออยู่นอกห้องประชุม
ขณะที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง ระบุว่า นายชวน ทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง ทำให้นายชวนสวนกลับว่าพูดอะไรจะต้องย้อนดูตัวเองด้วย และยืนยันว่าตนไม่ได้ลำเอียงในการทำหน้าที่
แต่นายพิเชษฐ์ตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรครับ ท่านประธาน ท่านก็ต้องดูตัวเองด้วย ท่านอย่ามาว่าผม อย่าเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น”
แต่นายชวน ระบุว่าต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิ ทำให้นายพิเชษฐ์ ระบุว่าสถานการณ์แบบนี้ท่านอยู่ได้อย่างไร ห้องประชุมเป็นแบบนี้อยู่ได้อย่างไร แต่ที่ที่สุด นายพิเชษฐ์ ก็กล่าวขอโทษ
ต่อมานายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ญัตติที่นายวิรัช เสนอน่าจะไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีส.ส.รับรอง ดังนั้น การเสนอจึงไม่ชอบ ทำให้นายชวน กล่าวตอบว่า เมื่อนายศุภชัย ยืนยันว่าญัตติการเสนอนับไม่ถูกต้อง คำสั่งที่ตนได้สั่งไปก่อนหน้านี้ให้นับองค์ประชุมแบบขานชื่อก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้
จากนั้นนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย จึงได้ลุกขึ้นกล่าวว่า “ญัตติที่ผมได้เสนอให้ขอนับองค์ประชุมแบบเสียบบัตร ยังอยู่และถูกต้องทุกประการ เพราะมีสมาชิกรับรองกว่า 20 คน”
กระทั่งเวลา 14.45 น. นายชวน ได้กดออดเชิญให้สมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อเสียบบัตรแสดงตน และประกาศผลองค์ประชุม ปรากฎว่ามีสมาชิกเพียง 197 คน ไม่ถึง 237 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม และสั่งปิดการประชุมในเวลา 14.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใช้เวลาในการยื้อ เพื่อนับองค์ประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง และสภาฯ ล่มครั้งถือเป็นครั้งที่สอง ของเดือน ก.พ. และเป็นครั้งที่ 16 ในรัฐบาลชุดนี้ .-สำนักข่าวไทย