“สุทิน” รับทำสภาล่ม เพื่อรักษาร่างแก้รธน. เพื่อไทยจ่อเสนอญัตติสัปดาห์หน้า

รัฐสภา 14 ก.พ. –“เพื่อไทย” เตรียมเสนอญัตติของตัวเองภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้รัฐสภาถกเลื่อนวาระ ยื่นศาลรธน. ตีความทำประชามติกี่ครั้ง เชื่อไม่เป็นญัตติซ้ำ “หมอเปรม” ด้าน “สุทิน” รับทำสภาล่ม เพื่อรักษาร่างแก้รธน. ฝากสื่อถามพรรคส้ม หัวชนฝาแก้รธน.แล้วตก ได้ประโยชน์อะไร เทียบทางเดินเพื่อไทย ดีกว่า ชี้ปัญหาอยู่ที่เสียงสว. ไม่ใช่สส. ป้องนายกฯ รับผิดชอบแล้ว ส่วนพรรคร่วมที่เห็นต่าง รอดูนายกฯ แสดงภาวะผู้นำ


นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะแถลงข่าวภายหลังองค์ประชุมรัฐสภาล่มในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยย้ำเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยที่จะรักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้ให้อยู่ในระเบียบวาระได้มากที่สุด ไม่ให้ถูกตีตก ซึ่งวันนี้มีท่าทีจะเปิดประชุมเพื่อพิจารณาต่อ ทุกคนรู้คำตอบแล้วว่าถ้าพิจารณาแล้วลงมติก็ต้องตกไป ดังนั้นเมื่อเรามีจุดยืนที่จะรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้เพื่อหาลู่ทางนำไปสู่การแก้ไขให้สำเร็จ จึงรักษาไว้ด้วยวิธีการให้มีการพิจารณา จึงทำวิธีการที่ไม่อยากทำ คือไม่เป็นองค์ประชุม และในที่สุดการประชุมวันนี้ไม่สามารถดำเนินการไปได้ เมื่อไม่ได้ร่างนั้นยังอยู่ เราจะ พยายามนำสู่ศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาตีความอีกครั้งหนึ่งให้ได้ ไม่ใช่ให้ค้างอยู่ และมีบางพรรคการเมืองไม่เข้าใจเรา ซึ่งต้องเข้าใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยุ่งยากจนทำให้หลายคนมองว่าจะไม่สำเร็จนั้นเกิดจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ชัดเจน หลายฝ่ายหยิบยกไปตีความเข้าข้างตัวเอง ฝ่ายที่ไม่อยากแก้ ก็ได้ทีตีความว่าศาลพิจารณาแบบนี้ จะแก้ไม่ได้ หากแก้ได้ต้องทำประชามติ 3 ครั้ง นั่นคือความไม่ชัดเจนคลุมเครือถูกฝ่ายไม่อยากแก้นำไปเป็นความชอบธรรมให้ตัวเอง ถึงขั้นข่มขู่ว่าใครร่วมพิจารณามีสิทธิ์ถูกดำเนินคดีและถอดถอน ทำให้สมาชิกหลายคนวิตก ซึ่งเป็นข้อเสียของความไม่ชัดเจน

นายสุทิน กล่าวว่าส่วนฝ่ายที่อยากแก้ตีความว่าแก้ได้ โดยให้ทำประชามติ2 ครั้ง เราก็ยื่นแต่เมื่อยื่นแล้ววันนี้จึงเกิดปัญหาและมีความคลุมเครือ ถ้าปล่อยให้ความคลุมเครือดำรงอยู่ปีนี้ หรือปีหน้า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ชี้ให้ชัดเจน ก็แก้ไม่ได้ ถ้าเราเดินหน้าจนร่างตกไปก็ต้องเป็นสมัยประชุมหน้าที่จะยื่นได้ และเมื่อยื่นเข้าไปอีกก็จะเจอความคลุมเครือนี้อีกก็จะเดินหน้าไม่ได้อีก ดังนั้นวิธีการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้สำเร็จในมุมมองของพวกเราคือต้องทำให้การวินิจฉัยนี้ชัดเจน โดยหากศาลบอกให้ทำประชามติ 3 ครั้งก็ชัดเจน เราก็จะดำเนินการทำ 3 ครั้ง ซึ่งอาจต้องรอกฎหมายประชามติ หากศาลบอกว่า 2 ครั้ง ก็สามารถเดินหน้าได้เลย และจะมองเห็นความสำเร็จ การที่เราพยายามนำร่างแก้รัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อคลี่คลายและปิดทางที่คลุมเครือให้ทุกฝ่ายเดินได้ และที่จะได้มากกว่านี้ก็คือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาชัดว่าทำเพียง 2 ครั้งเท่านั้น จะได้เห็นว่าฝ่ายที่อ้างว่า ไม่อยากแก้แล้วเข้าข้างตัวเอง พรรคการเมืองเหล่านั้นหรือสว.จะตอบว่าอย่างไร จะเดินหน้าแก้กับตนไหม ประชาชนจะได้รู้ชัดรู้แจ้งว่าใครมีเจตนาที่จะแก้จริงหรือไม่จริง ดังนั้นทางเดียวที่จะผ่าทางตันและพิสูจน์ คือให้ศาลวินิจฉัย


นายสุทิน กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนบอกว่าเคยยื่นไปแล้วแต่ศาลไม่รับว่า ตอนนั้นยังไม่มีข้อขัดแย้งเพราะยังไม่เข้าสู่สภา แต่วันนี้เราจึงทำให้องค์ประกอบนั้นชัด คือยื่นเข้าสภาและมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว ฝ่ายหนึ่งบอกบรรจุไม่ได้อีกฝ่ายบอกบรรจุได้ จึงเชื่อว่าสาเหตุองค์ประกอบที่ครบแล้วศาลจะรับและตีความออกมา เราหวัง อย่างนั้นและจำเป็นต้องเดินแบบนี้ เราต้องลงทุน ซึ่งอาจมีคนที่ไม่เข้าใจเราก็ยอมให้ตำหนิแต่เชื่อว่าเมื่อจบไปสู่เป้าหมายแล้วทุกคนจะเข้าใจเรา

ด้านนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า สำหรับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าจะทำประชามติกี่ครั้งนั้น พรรคเพื่อไทยจะรวบรวมรายชื่อให้เกิน 40 คน เพื่อเสนอญัตติใหม่ เข้ามาบรรจุในระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาลำดับที่ 4 โดยจะรวบรวมให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ประธานรัฐสภา เปิดประชุมพิจารณาให้เร็วที่สุด โดยจะไม่ใช้ญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่เสนอไว้ เพราะอยากทำใหม่เลยเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า ญัตติของพรรคเพื่อไทยสามารถที่จะนำมาพิจารณาได้ไม่เป็นญัตติซ้ำหลังที่ประชุมลงมติไม่เลื่อนญัตติของนายแพทย์เปรมศักดิ์ขึ้นมาพิจารณา เพราะมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การขอเลื่อน และญัตติดังกล่าวยังคงอยู่ไม่ได้ตกไป

จากนั้น นายสุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ ประโยชน์ คือได้ความชัดเจน และจะทำให้การแก้ไข รัฐธรรมนูญ มีโอกาสสำเร็จ จึงอยากฝากสื่อมวลชน ให้ถามพรรคประชาชนว่าแนวทางที่พรรคประชาชนกำลังเดิน มีประโยชน์อย่างไร แล้วจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำเร็จอย่างไร ถ้าเดินไปแล้วมันตก โอกาสจะแก้จะสำเร็จได้อย่างไร ถามหน่อย จะได้เอามาเปรียบเทียบกับแนวทางที่พรรคเพื่อไทยเดิน สื่อมวลชนจะได้เห็น ช่วยถามหน่อย ประชาชนจะได้นำมาเปรียบเทียบกันว่า แนวทางที่พรรคเพื่อไทยเดินอยู่


เมื่อถามย้ำว่า ส่วนที่พรรคประชาชนอยากให้ พรรคเพื่อไทย ทำความเข้าใจกันในพรรคร่วมรัฐบาล แล้วมาเดินหน้าโหวต นายสุทิน รับว่า ปัญหาวันนี้ ไม่ได้เกิดที่เสียง สส.ฝั่งรัฐบาล แต่มันเกิดที่เสียง สว. เราอยากได้ 67 แต่มันไม่ได้ ส่วนเรื่องของรัฐบาล เราก็ต้องยอมรับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องใหญ่ ทุกพรรคมีจุดยืนเป็นของตัวเอง พรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นแกนนำ ที่ทุกคนชอบถามหาความรับผิดชอบจากนายกรัฐมนตรี ว่าถ้าเสนอในนามรัฐบาลไม่ได้ นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบอย่างไร เขาก็รับผิดชอบแล้ว โดยการให้พรรคของเขาเสนอแทน เพราะเมื่อพรรครัฐบาล แต่ละพรรคมีจุดยืนอย่างนั้น ในทางการเมือง นายกฯจะแสดงภาวะผู้นำอย่างไร กับพรรคเหล่านั้น เราก็ต้องดูต่อ แต่ความรับผิดชอบ ที่นายกฯ ทำต่อรัฐธรรมนูญ คือ ให้พรรคเพื่อไทย เดินหน้าแก้ และเราก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ถ้าถามความรับผิดชอบจากนายกฯ ก็ทำแบบนี้.-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย