กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. – เจ้าหน้าที่สกัดกั้นการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยซุกช่อนอำพรางในบรรจุภัณฑ์อาหารเตรียมส่งออกปลายทางประเทศเกาหลีใต้
วันนี้มีการแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง ป.ป.ส.ของไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุดสาธารณรัฐเกาหลี (SPO) เจ้าหน้าที่จาก the National Intelligence Service Korea เกาหลีใต้ และตำรวจนนทบุรี ในการสกัดกั้นการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ โดยซุกช่อนอำพรางในบรรจุภัณฑ์อาหารเตรียมส่งออกปลายทางประเทศเกาหลีใต้
การตรวจยึดครั้งนี้สืบเนื่องมาจากประมาณตี 1 ของเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.64) มีโทรศัพท์มาที่สายด่วนแจ้งเบาะแสยาเสพติด 1386 ของสำนักงาน ป.ป.ส. ถึงการพบพัสดุต้องสงสัยว่าจะมียเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายใน เตรียมส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ ทาง ป.ป.ส. จึงสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม และเข้าไปตรวจสอบพัสดุดังกล่าวพร้อมด้วยตำรวจ สภ.บางกรวย และตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พบว่าเป็นพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ภายในบรรจุเป็นถุงผลิตภัณฑ์อาหาร และข้างในถุงนั้นมียาเสพติดชุกซ่อนอยู่ พบเป็นไอซ์น้ำหนักประมาณ 870 กรัม ยาอี 1,980 เม็ด เคตามีน 1,778 กรัม และกัญชา 2,080 กรัม เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลาง พนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. บอกว่า จากการสืบสวนขยายผลพบว่าในวันที่ 8 ธันวาคม พัสดุดังกล่าวถูกส่งมายังบริษัทขนส่งพัสดุไปยังต่างประเทศแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยผู้ส่งไม่มาส่งพัสดุด้วยตนเอง แต่ใช้การจ้างวานแท็กซี่สาธารณะเป็นผู้มาส่งให้ และพบพิรุธเนื่องจากมีการระบุชนิดพัสดุเป็นถุงผลิตภัณฑ์อาหาร แต่กลับมีน้ำหนักมากเกินไป ไม่สอดคล้องกับชนิดพัสดุภัณฑ์ที่ได้ระบุไว้ จึงทำให้มีความน่าสงสัย ซึ่งจะเร่งขยายผลจับกุมผู้ส่งและเครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ได้ประสานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุดสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย เพื่อร่วมขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการในประเทศเกาหลีใต้ด้วย
เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังขอบคุณประชาชนที่เป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสยาเสพติด ถือว่าสำคัญและมีส่วนช่วยอย่างมากในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิด โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564-9 ธันวาคม 2564 มีประชาชนแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดเข้ามารวม 3,575 เรื่อง และเพื่อรองรับและกระตุ้นการมีส่วนร่วมจากทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีนโยบายในการนำเงินสินบนที่ได้จากการยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินสินบนรางวัลต่อผู้แจ้งเบาะแส 5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติติงานจะได้รับเงินรางวัล 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสินบนรางวัลที่ถูกต้องตามกฎหมาย
อีกด้านหนึ่งวันนี้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พูดถึงกฎหมายยาเสพติดใหม่ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานี้เป็นต้นไป มีสาระสำคัญคือ มุ่งเน้นสืบสวนหาตัวหัวหน้าผู้สั่งการ และยึดทรัพย์ตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการกำหนดอัตราโทษใหม่ในบางฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ และสารระเหย ให้ได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของการกระทำผิด คำนึงถึงพฤติการณ์ ความร้ายแรง และจะมีการนำพฤติการณ์การกระทำความผิดมาพิจารณาอัตราโทษแทนการใช้บทสันนิษฐาน ซึ่งบางฐานความผิดจะมีกำหนดโทษลดลง อันเป็นคุณต่อผู้กระทำผิด ส่วนในกรณีคดีถึงที่สุดจะทำให้ผู้ต้องขังที่มีโทษตามคำพิพากษาหนักกว่าโทษที่บัญญัติในกฎหมายฉบับใหม่ อาจยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอให้ศาลพิจารณากำหนดโทษใหม่ได้.-สำนักข่าวไทย