ครม.เห็นชอบปรับปรุง คนละครึ่งเฟส3 เปิดทางสั่งอาหารเดลิเวอรี่

กระทรวงการคลัง 21 ก.ย. -ครม.เห็นชอบปรับปรุง “คนละครึ่ง เฟส3” เปิดทางให้สั่งอาหารผ่าน Food Delivery Platform เริ่ม 4 ตุลาคม นี้ Grab ลดค่าจัดส่งอาหาร 25 บาท เมื่อสั่งซื้อขั้นต่ำ 150 บาท, LINEMAN เก็บค่าส่วนแบ่งไม่เกินร้อยละ 20

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการปรับปรุงรายละเอียดโครงการคนละครึ่งเฟส3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้

1. โครงการคนละครึ่งเฟส3 ปรับลดกลุ่มเป้าหมายจากเดิม 31 ล้านสิทธิ เป็น 28 ล้านสิทธิ
2. โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ปรับลดจำนวนกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิจากเดิม 1.4 ล้านสิทธิเป็น 1 ล้านสิทธิ

การปรับลดสิทธิ์ดังกล่าว ทำให้มีสิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส3 คงเหลือประมาณ 1 ล้านสิทธิ และสิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ คงเหลือประมาณ 5 แสนสิทธิ จากข้อมูล ณ วันที่ 20 กันยายน 2564 โครงการคนละครึ่ง เฟส3 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 24.22 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 66,366 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินประชาชนจ่ายสะสม 33,761.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,604 ล้านบาท ในส่วนของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 75,582 ราย โดยเป็นยอดการใช้จ่ายส่วนประชาชนสะสมรวม 2,182 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายส่วน e – Voucher สะสม 90.7 ล้านบาท

โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านผู้ให้บริการระบบขนส่งอาหาร (Food Delivery Platform) ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 โดยรัฐสนับสนุนเงินในส่วนค่าอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น ไม่รวมถึงค่าจัดส่งหรือค่าใช้จ่ายอื่นใด ขณะนี้มีผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 2 ราย และอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบกับโครงการฯ ได้แก่

1. Grab โดยเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งการขาย (Gross Profit: GP) จากร้านอาหารและเครื่องดื่ม ไม่เกินร้อยละ 20 และลดค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ประชาชน 25 บาท เมื่อสั่งซื้อขั้นต่ำ 150 บาท สำหรับการสั่งซื้ออื่น ๆ ที่ไม่ใช่จากโครงการฯ
2. LINEMAN เก็บ GP จากร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ไม่เกินร้อยละ 20 และสนับสนุนค่าจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ให้แก่ประชาชน 35-50 บาทต่อครั้ง หรือไม่เกิน 2,000 บาทตลอดระยะเวลาโครงการฯ พร้อมสื่อส่งเสริมการตลาดและส่วนลดสำหรับลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการฯ ประสงค์จะขายอาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการ Food Delivery Platform สามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดยสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการ Food Delivery Platform เพื่อขายอาหารและเครื่องดื่มตามโครงการฯ ได้เพียงรายเดียว โดยสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแต่ละโครงการได้ที่ www.คนละครึ่ง.com และ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com

นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 กระทรวงการคลังจะโอนวงเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่3 รอบที่ 2 เพิ่มเติม จำนวน 1,500 บาท โดยนำไปรวมกับวงเงินสิทธิคงเหลือจากรอบแรกให้อัตโนมัติ ทั้งนี้ ประชาชนยังคงสามารถใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 .-สำนักข่าวไทย