ก.แรงงาน-20 ส.ค.-ผู้ประกันตน ม.33 ใน 16 จังหวัด เฮ! รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลวันนี้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการโอนเงินช่วยเหลือตามมาตรการเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในจังหวัด 29 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดนั้นว่า ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีความเป็นห่วงผู้ใช้แรงงานทุกกลุ่ม ทั้งอาชีพอิสระและประชาชนทั่วไปที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อให้ได้รับสิทธิการเยียวยาจากรัฐบาลอย่างครบถ้วน ซึ่งในวันนี้ (20 ส.ค.64) จะมีผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิจำนวน 361,939 ราย ในอีก 16 จังหวัดที่เหลือ ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง จะได้รับเงินโอนผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน คนละ 2,500 บาท คิดเป็นเงิน 904,847,500 บาท ซึ่งเงินในส่วนนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวันแก่พี่น้องแรงงานผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ได้
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ สำนักงานประกันสังคมจะแจ้งไปยังนายจ้างเพื่อให้ลูกจ้างดำเนินการผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้เรียบร้อย เพื่อที่สำนักงานประกันสังคมจะได้โอนเงินให้ทุกวันศุกร์ต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ายังมีผู้ประกันตนบางส่วนยังไม่ได้รับเงิน
จากปัญหาการโอนเงินไม่สำเร็จ ด้วยสาเหตุต่าง ๆ เช่น ยังไม่ผูกพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือทันในการโอนรอบที่ผ่านมา จึงขอฝากไปยังผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับสิทธิในพื้นที่ 16 จังหวัดที่จะได้รับเงินเยียวยาในวันนี้ (20 ส.ค.64) และรวมถึงผู้ที่ตกหล่นจากรอบการโอนที่ผ่านมา ให้ท่านเร่งตรวจสอบข้อมูลตนเอง หากเช็คแล้วว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ให้รีบไปติดต่อธนาคารโดยด่วน
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้เปิดให้นายจ้างและผู้ประกันตนทุกมาตรา ทั้ง มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ตรวจสอบข้อมูลได้ที่ www.sso.go.th หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“การโอนเงินเยียวยาแก่ผู้ประกันตน ใน 16 จังหวัด 9 กิจการ ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ภาคแรงงานและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามเจตนารมณ์ของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อให้ทุกคน ทุกกลุ่ม เดินหน้าต่อไปได้และก้าวข้ามสถานการณ์โควิดในครั้งนี้ไปด้วยกัน”นายสุชาติ กล่าว