กนง. มีมติ 4:2 คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% พร้อมหั่น GDP ปีนี้เหลือโต 0.7%

กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – กนง. มีมติ 4:2 คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% พร้อมหั่น GDP ปีนี้เหลือโต 0.7% ก่อนฟื้นโต 3.7% ในปี 65


นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันนี้ ด้วยคะแนน 4 : 2 เสียง โดยกรรมการ 2 เสียงข้างน้อยเสนอให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจและรองรับแนวโน้มเสี่ยงสูงในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้ กนง.มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 64 ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดมากกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งโจทย์สำคัญคือ ต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาด และกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชน และให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาโดยเร็ว อย่างไรก็ดี กนง.พร้อมใช้เครื่องมือนโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมเมื่อจำเป็น


ขณะเดียวกันคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 64 ลดลงเหลือเติบโต 0.7% จากเดิมคาดไว้ที่ 1.8% และในปี 65 จะเติบโตเพิ่มเป็นราว 3.7% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.9% เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้อและรุนแรงกว่าที่ประเมินไว้ รวมทั้งนโยบายการเปิดประเทศล่าช้า ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แม้ว่าจะมีปัจจัยสนับสนุนคือมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาเพิ่มเติม แนวโน้มการส่งออกสินค้าดีกว่าคาดก็ตาม

ทั้งนี้ กนง.มองว่าสถานการณ์โควิดรอบใหม่จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั้งในปีนี้และต่อเนื่องถึงในปีหน้า จึงควรจะต้องเตรียมรับมือความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น โดยประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์โควิด-19 พัฒนาการด้านวัคซีนทั้งประสิทธิภาพและการกระจายวัคซีน รวมถึงนโยบายการควบคุมโรคและนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส, ปัญหา supply disruption ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกสินค้า, ความต่อเนื่องของแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐทั้งมาตรการทางการคลังและมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ภาคธุรกิจ

ขณะที่นโยบายสาธารณะ จะต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับต่อความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยโจทย์สำคัญของเศรษฐกิจไทย คือ ต้องคุมการแพร่ระบาดให้ได้ มาตรการการเงินการคลัง ต้องช่วยประคองไม่ให้เศรษฐกิจทรุด และช่วยให้เศรษฐกิจไทยผ่านพ้นวิกฤติไปให้ได้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

ทลายเครือข่ายเบิกงบซ่อมรถทิพย์ ทุจริตงบ กทม.

คดีการจับกุม 7 เจ้าหน้าที่กองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่ร่วมกันทุจริตปลอมใบเสนอราคาเบิกเงินซ่อมรถบัส ในชั้นสอบสวนได้ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัวไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติม หลังตำรวจออกมาเผยว่ามีความเกี่ยวข้องกับโครงการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายที่ถูกตรวจสอบไปก่อนหน้านี้

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี

นายกฯ อารมณ์ดีฮัมเพลง บอก “ผู้ชายคนนั้น” แฟร์ดี หลังฝ่ายค้านถอนชื่อ “ทักษิณ” จากญัตติซักฟอก โยนถามผู้รู้เหมาะหรือไม่หากใช้คำว่า “พ่อ” แทน ยันฝ่ายค้านขอ 30 ชม. ก็พร้อม