BIG STORY : ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ระบุรัศมี 1 กม.ยังเป็นพื้นที่อันตราย

สมุทรปราการ 7 ก.ค. – ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ แถลงในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ยังเป็นพื้นที่อันตราย และอนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยห่างจากโรงงานหมิงตี้ เกินรัศมี 1 กม. กลับเข้าพื้นที่ได้ ขณะที่ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องค่าเสียหายบ้านพัง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทุกชั่วโมง ปรากฏว่าคุณภาพอากาศเป็นปกติแล้ว โดยในรัศมีเกินกว่า 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ไม่พบทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารอินทรีย์ระเหยง่าย และก๊าซอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานที่กำหนด ส่วนระยะรัศมี 1 กิโลเมตรแรกยังมีเกินเป็นระยะๆ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวต่อว่า ยังไม่ทราบปริมาณสารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ว่ายังคงหลงเหลืออยู่เท่าไร เพราะการแจ้งปริมาณเก็บสารเคมีอันตราย ทางโรงงานจะแจ้งกับอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยยังคงเป็นห่วงเรื่องการควบคุมไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก หากอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์จะทำปฏิกิริยาทำให้สารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ใต้ดินแข็งตัวและติดไฟยากขึ้น โดยจะประสานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและวางแผนวิธีการปฏิบัติ หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการพิจารณาเห็นชอบจะเร่งดำเนินการ


อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีบทบังคับที่ละเอียดครอบคลุมในการป้องกันและเยียวยา โดยเฉพาะการให้โรงงานรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ต่อความเสียหายต่อทั้งประชาชนและสิ่งแวดล้อม

ด้านชาวบ้านในหมู่บ้านพาทิโอ ย่านถนนกิ่งแก้ว กว่า 200 คน รวมตัวกันบริเวณสวนหย่อมภายในหมู่บ้าน เพื่อร้องเรียนหลังบ้านพักได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด โดยมีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เจ้าของเพจ “ทนายไพศาลช่วยด้วย” รับเรื่องร้องเรียน และจะเป็นตัวแทนไปเจรจาเรียกร้องความเสียหายจากโรงงานหมิงตี้ และบริษัท เอกชน (พฤกษา) เจ้าของโครงการ ที่ไม่เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้ลูกบ้าน จนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้

ทนายไพศาล ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านเพจทนายไพศาลช่วยด้วย ว่าชาวบ้านที่นี่กำลังเดือดร้อนหนัก ไม่สามารถเข้าไปพักอาศัยได้ เพราะหลังคาที่พักในหมู่บ้านกว่า 200 หลังคาเรือน จากทั้งหมดประมาณ 300 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย ฝ้าถล่ม กระจกประตู หน้าต่างแตก และทางโครงการยังไม่มีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นแต่อย่างใด หลังจากนี้จะไปเจรจากับทางโครงการ รวมไปถึงโรงงานว่าจะเข้ามาชดเชยความเสียหายให้กับชาวบ้านได้อย่างไร


นายอิทธิกานต์ จิตสมบูรณ์ หนึ่งในลูกบ้านที่รับความเสียหาย ระบุว่า พยายามแจ้งเรื่องไปยังนิติบุคคล เพื่อให้โครงการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข โดยเฉพาะหลังคา ในเบื้องต้นแต่โครงการกลับเพิกเฉย ยิ่งเมื่อวานนี้ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้บ้านพักเสียหายเพิ่มมากขึ้น ฝ้าถล่มลงมา และน้ำท่วมภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม จึงอยากให้ทางโครงการเห็นใจรีบเร่งมาดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นเหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ ในละแวกนี้ ที่มีการซ่อมแซมในเบื้องต้น พร้อมติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในการแจ้งความดำเนินคดีให้

ขณะที่นางสาวสุกัลยา บุญยะกา หนึ่งในผู้เสียหาย นำผู้สื่อข่าวสำรวจความเสียหายในบ้านที่พบว่าแรงระเบิดจากโรงงานส่งผลให้หลังคาบ้านพักเปิด ฝ้าถล่ม ประตูหน้าต่างแตกละเอียด พร้อมเผยถึงเหตุการณ์วันที่เกิดการระเบิดว่าแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมาก บ้านสั่นทั้งหลัง กลัวว่าเหตุครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของตัวบ้าน อยากให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ

ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินและเตรียมเข้าจัดการผสมสารเคมีให้สารไวไฟในโรงงานผลิตโฟม ให้เสื่อมสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปกำจัด แต่การปฏิบัติการจะต้องตรวจสอบและปรับอุณหภูมิของสารไวไฟที่ตกค้างอยู่ในถังบรรจุให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม ด้วยการใช้รถกระเช้าฉีดโปรยละอองน้ำใส่ถังบรรจุ

นายณัฐธัญ ละอองทอง ผู้จัดการส่วนบริหารภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญของกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินแบบนาทีต่อนาที เพื่อความปลอดภัย โดยจะมีการผสมสารเคมีเข้าไปในถังบรรจุสารไวไฟให้สารเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ และเมื่อไม่ติดไฟแล้วก็จะมีความปลอดภัยในการทำงาน และจากนั้นหากจะขนย้ายไปทำลายก็จะทำได้

ทางด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ แถลงข่าววันนี้ว่า ในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุ ยังประกาศเป็นพื้นที่อันตราย เจ้าหน้าที่ยังต้องควบคุมอยู่ คือ ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ซอย 19 ถึงซอย 25 ยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านพักเข้าพื้นที่ ส่วนถนนกิ่งแก้วจะเปิดการจราจรทั้งสาย ยกเว้นซอย 19 ถึงซอย 25 เป็นพื้นที่ควบคุม ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปในซอย ส่วนผู้มีบ้านพักรัศมีเกินระยะ 1 กิโลเมตร หรือในระยะ 2-5 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ สามารถใช้ชีวิตประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ยังระบุด้วยว่าตอนนี้ปัญหามีอยู่ 2 ส่วน คือ สารเคมีที่ยังอยู่ในถังกว่า 1,600 ลิตร ยังหลงเหลืออยู่กี่ลิตร และที่รั่วไหล่ออกมาถูกเผาไหม้ไปแล้วกี่ลิตร ซึ่งการประชุมได้แยกการดำเนินการเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกจะเข้าไปกำจัดการสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งในภาคพื้นดินและในถัง โดยจะใช้สารเคมีเข้าไปเจือปนให้เป็นกลางและก่อให้ติดไฟน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือการเข้าถึงตัวถังสารเคมี ซึ่งตรงนี้ต้องมีการสำรวจให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยสูงสุด ก่อนที่จะให้ผู้ชำนาญการเข้าจัดการกับสารเคมีที่เหลืออยู่ต่อไป

สำหรับประชาชนที่ห่วงใยเรื่องการกลับเข้าสู่ที่พักนั้น หลังจากได้มีการประชุม ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าสถาณการณ์เริ่มปลอดภัยมากขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่ยังเป็นห่วงเรื่องอันตรายและยังอยู่ในพื้นที่ควบคุม แต่จะผ่อนคลายเปิดให้ใช้ถนนกิ่งแก้วทั้งสองฝั่ง และประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับเข้าที่พักและประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพราะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันออก ซึ่งสามารถเข้าพื้นที่ได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นผู้ที่พักอยู่ในซอย 19-25 ที่ยังประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุม โดยจะเปิดให้ใช้ถนนและกลับบ้านพักได้ในเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องของคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่พอจะให้การได้ไปแล้วบางส่วน รวมถึงผู้จัดการโรงงาน และพนักงานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ แต่ข้อสรุปนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจที่เกิดเหตุได้ รวมถึงสถานที่ยังมีความร้อนอยู่ จากนั้นต้องรอผู้ชำนาญการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ชำนาญการจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความผิดของใคร ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนทุกๆ ด้าน ต้องรอหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้จัดกำลังตำรวจออกตรวจตราในพื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ตลอด 24 ชม. จนกว่าจะประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 1 กิโลเมตร ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไม่มีเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินใดๆ หากต้องการรื่องการแจ้งความทรัพย์สินเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ทำได้ 2 วิธี คือ ทรัพย์สินที่สามารถประเมินราคาได้ ให้นำเอกสารการประเมินจากช่าง ไปมอบให้ตำรวจได้เลย และถ้ายังประเมินราคาไม่ได้ ให้ไปแจ้งความไว้ก่อนได้เลย แล้วค่อยนำเอกสารการประเมินราคามามอบให้ตำรวจเพิ่มเติมในภายหลังได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

หมายจับกฤษอนงค์

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา-เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก

ศาลอนุมัติหมายจับ “กฤษอนงค์” 2 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์ และเป็นตัวกลางเรียกรับสินบน” หลังตำรวจนำสำนวนขอศาลอาญาคดีทุจริตฯ ขออนุมัติหมายจับเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (16 พ.ย.) เตรียมขอหมายค้นบ้านพัก 2 แห่ง ใน กทม. และปทุมธานี

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้