คพ.คุมรถควันดำต่อเนื่อง ตั้งจุดตรวจเข้ม 36 จังหวัด

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – กรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับหลายหน่วยงาน คุมเข้มรถควันดำ ตั้งจุดตรวจใน กทม. 30 จุด รวมทั้งในเมืองหลักอีก 35 จังหวัด สนองนโยบายนายกฯ ห่วงใยปัญหาฝุ่น PM 2.5


นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งจุดตรวจตรวจจับและห้ามใช้รถควันดำริมเส้นทางจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและอีก 35 จังหวัดต่อเนื่องเพื่อลดผลกระทบจาก ฝุ่น PM 2.5 โดยจะดำเนินการจนถึงเดือนมีนาคม 2568

ทั้งนี้ในกรุงเทพมหานครมีเจ้าหน้าที่ 4 ชุด เข้าร่วมปฏิบัติงานกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานครตามจุดต่างๆ รวมวันละ 14 ชุด ครอบคลุมพื้นที่ 17 เขตของกรุงเทพมหานครได้แก่ เขตคลองสามวา ดอนเมือง ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางขุนเทียน บางเขน บางแค บางนา ประเวศ บางบอน ภาษีเจริญ มีนบุรี ลาดกระบัง สายไหม สะพานสูง หนองแขม และหนองจอก นอกจากนี้ยังร่วมกับกรมการขนส่งทางบกซึ่งจะจัดชุดผู้ตรวจการตั้งจุดตรวจสอบรถควันดำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันละ 16 ชุด รวมทั้งสิ้น 30 จุด


สำหรับพื้นที่ต่างจังหวัดให้ดำเนินการเข้มข้นในเมืองหลัก โดยให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1-16 คพ. บูรณาการร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งจุดตรวจเข้มใน 35 จังหวัด

มาตการดังกล่าวเป็นตามข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งข้อสั่งการของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ห่วงใยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพของประชาชนจึงให้แก้ปัญหาจากแหล่งกำเนิดฝุ่น

สำหรับรถยนต์ที่ถูกติดสติกเกอร์ “ห้ามใช้ชั่วคราว” เจ้าของหรือผู้ครอบครองรถยนต์ต้องไปปรับปรุงแก้ไขเครื่องยนต์เพื่อให้การระบายมลพิษเป็นไปตามมาตรฐานและนำมาขอยกเลิกคำสั่ง ภายในระยะเวลา 30 วัน กรณีเจ้าของรถยนต์ที่ยังไม่ดำเนินการแก้ไขหรือนำมายกเลิกคำสั่งฯ ภายในระยะเวลาดังกล่าว จะถูกดำเนินการปรับเป็นพินัยกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะของพนักงานเจ้าหน้าที่ ค่าปรับไม่เกินห้าพันบาท ตามมาตรา 102 แห่ง พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 จึงขอความร่วมมือเจ้าของรถยนต์ หมั่นตรวจเช็คสภาพ บำรุงดูแลรักษาเครื่องยนต์ เพื่อลดมลพิษและฝุ่น PM 2.5. – 512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จับมือปืน

ล้อมจับมือปืนอันดับ 1 ประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9

ตำรวจล้อมจับมือปืนอันดับ 1 มีประวัติร้ายกาจที่สุดในพื้นที่ภาค 9 มีหมายจับติดตัว 9 หมาย ทั้งคดีฆ่า รับจ้างทวงหนี้ ยิงบ้าน และค้ายาเสพติด

สู้งูจงอาง

สาวใจเด็ด! สู้งูจงอางด้วยมือเปล่าจนรอดตาย

สาวใจเด็ด! เข้าไปหาเห็ดเจองูจงอาง ถูกฉกเป็นแผลเหวอะ ตัดสินใจฮึดสู้ด้วยมือเปล่า เตะก้านคองูแล้วกระทืบซ้ำ ก่อนจับกดพื้นลากไปหาหมอพร้อมกัน ล่าสุดอาการดีขึ้นแล้ว

บริจาคอวัยวะ

หนุ่มวัย 26 ปี บริจาคอวัยวะช่วยต่ออายุ 9 ชีวิต

ชื่นชมหนุ่มพนักงานช่วยเหลือคนไข้ รพ.ภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ บริจาคอวัยวะ แม้ต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร อายุเพียง 26 ปี แต่อวัยวะสามารถต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้อีก 9 ชีวิต

ข่าวแนะนำ

เปิดแรงจูงใจไรเดอร์โหดทวงหนี้ ยิงสาวใหญ่ดับ

เมื่อเช้าที่ผ่านมามีเหตุระทึกขวัญ เจ้าหนี้บุกยิงลูกหนี้ใน อ.เมืองนครปฐม จนเสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานในห้องเช่าพื้นที่ อ.สามพราน โดยมีตัวประกันถูกขังไว้ภายในห้องด้วย อะไรคือแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ติดตามจากรายงาน

เร่งหาสาเหตุไฟไหม้สปา “ดาราเทวี”

เจ้าหน้าที่ยังเร่งหาสาเหตุไฟไหม้เทวาสปา โรงแรมดาราเทวี หลังเจอจุดต้นเพลิง ด้านเจ้าของเผยไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย เป็นไปไม่ได้ที่จะเผาเอาเงินประกัน

ตำรวจคุมตัวทำแผนโจรบุกร้านทอง บอกผิดเองขอ 5 บาท

“โจร 5 บาท” ถูกจับหลังบุกร้านทอง ยอมรับตกใจกลัวหลังเจอเจ้าของร้านตวาดใส่ให้วางปืนตอนบุกชิงทอง พร้อมโทษตัวเองไม่บอกให้ชัด หวังทอง 5 บาท แต่ได้เงิน 5 บาท

ลูกพีช

ผบ.ตร. ย้ำภาพชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม

ผบ.ตร. ย้ำชัด “ลูกพีช” ขับปาดหน้ากระบะ อ้างเป็นญาติ ย้ำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ชี้ภาพชัดเจน แทบไม่ต้องสอบเพิ่ม